การที่เหล่าดีไซเนอร์อิสระจะเปิดหน้าร้านเพื่อขายเสื้อผ้าที่ตน
เองออกแบบนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกในปัจจุบัน
ด้วยเทคโนโลยีออนไลน์ที่ช่วยให้สามารถตั้งร้านค้าบนอินเทอร์เน็ตหรือเครือ
ข่ายสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊คได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
แต่ด้วยความง่ายนี้เองทำให้มีผู้เปิดแบรนด์ส่วนตัวบนโลกออนไลน์ราวกับดอก
เห็ด จนเป็นเรื่องยากที่แบรนด์หนึ่ง ๆ จะสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งได้
แต่ในประเทศที่ธุรกิจดอทคอมเฟื่องฟูที่สุดแห่งหนึ่งบนโลกอย่างสหรัฐ
อเมริกา โมเดลร้านขายเสื้อผ้าออฟไลน์รูปแบบใหม่กลับกำลังมาแรง นั่นคือ
ร้านแฟชั่นทรักส์ (Fashion Trucks) ที่เป็นการนำรถบรรทุกมาดัดแปลงเป็นร้านขายเสื้อผ้าและเครื่องประดับวิ่งไป เปิดขายตามสถานที่ต่าง ๆ
หลังจากมีผู้ริเริ่มเป็นครั้งแรก ในปี 2010
ปัจจุบันมีร้านค้ารูปแบบนี้กว่า 500 คัน ทั่วทั้ง 52
รัฐของประเทศสหรัฐอเมริกาแน่นอนว่าโมเดลร้านแฟชั่นนี้ไม่ได้เป็นเพียงการ
จำหน่ายเสื้อผ้าโหลทั่ว ๆ ไป
แต่เป็นรูปแบบที่ผู้ประกอบการแต่ละคนสร้างแบรนด์สินค้าแฟชั่นของตนเอง
กำหนดคอนเซ็ปต์เฉพาะตัวและตกแต่งรถให้เข้ากับคอนเซ็ปต์นั้น ๆ
ตั้งแต่สีสันของตัวรถไปจนถึงตกแต่งภายใน
ไปจนถึงตัวสินค้าเรียกได้ว่าเป็นร้านบูติคเคลื่อนที่ส่วนตัว
หนึ่ง ในแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จจากโมเดลนี้ คือ
NOMAD ของ เจสซี่ โกลเดนเบิร์ค
ซึ่งขับร้าน NOMAD มาเปิดขายสินค้าที่บริเวณฟิฟท์อเวนิวในเมืองแมนฮัตตัน
เป็นประจำมานานกว่า 2 ปี โดยเจสซี่เล่าว่า
ได้รู้จักกับคอนเซ็ปต์การเปิดร้านแฟชั่นทรักส์นี้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2012
ซึ่งไอเดียดังกล่าวช่วยสาน
ฝันที่จะเปิดร้านขายเสื้อผ้าเป็นของตนเองที่มีมา ตั้งแต่ครั้งเรียนจบมหาวิทยาลัย
หลัง จากนั้นจึงได้เดินหน้าแผนการที่จะเปิดร้านของตนเอง
ด้วยการซื้อรถบรรทุกเล็กมือ 2 มาปรับปรุงเป็นร้านค้า
รวบรวมเงินทุนผ่านทางออนไลน์
รวมถึงติดต่อดีไซเนอร์อิสระในนิวยอร์กและลอสเเองเจลิสเพื่อซื้อสินค้าที่
ต้องการมาสต๊อกไว้
โดยรวมแล้วเจสซี่ใช้เงินลงทุนไปทั้งหมด 70,000
ดอลลาร์สหรัฐในการสร้างร้าน และอีก 1,000
ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับค่าน้ำมันและที่จอดรถ
ซึ่งนับว่าถูกมากเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในการเปิดร้านค้าธรรมดาในย่าน
เดียวกันที่ต้องใช้เงินถึง 1-1.5
แสนดอลลาร์เพื่อเปิดร้านและเสียค่าเช่าอีกเดือนละ 1-1.2 หมื่นดอลลาร์
ด้วย ยอดขายประมาณ 50 รายต่อวันร้าน NOMAD จึงถึงจุดคุ้มทุนในเวลาเพียง 1
ปี พร้อมด้วยเครือข่ายดีไซเนอร์เสื้อผ้า 30-50
รายและดีไซเนอร์เครื่องประดับอีก 8-15 ราย
เลีย ลี
เป็นเจ้าของร้านแฟชั่นทรักส์อีกรายที่เริ่มธุรกิจนี้ในช่วงปลายปี 2012
โดยมีฐานอยู่ในเมืองวอชิงตัน ดี.ซี.
ซึ่งได้ให้ความเห็นว่าโมเดลธุรกิจเป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการราย
ใหม่ ๆ สามารถมีร้านของตนเองได้
รวมถึงมีความเสี่ยงต่ำกว่าการเปิดร้านแบบปกติ
นอกจากนี้ "
เลีย ลี" ยังกล่าวเสริมว่า
แฟชั่นทรักส์ที่สามารถเคลื่อนที่ได้ทุกเวลานี้มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่จะกระตุ้น
ให้ลูกค้ารู้สึกว่าต้องรีบซื้อสินค้าที่ตนหมายตาไว้ทันทีก่อนที่ร้านจะย้าย
ไปขายที่อื่น
ทั้งนี้ อายุของร้านแฟชั่นทรักส์ทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 2
ปีซึ่งเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่สามารถรวบรวมเงินได้มากพอที่จะตั้ง
ร้านแบบธรรมดาได้แล้ว หรืออาจเลิกกิจการและนำเงินที่ได้ไปลงทุนด้านอื่นแทน
credit by :
http://women.sanook.com/29561/
Read More...