บทความยอดนิยม

ประกาศ, ลงโฆษณาฟรี, ฟรีโฆษณา, ลงประกาศฟรี, ลงประกาศขายสินค้าฟรี, ลงประกาศขายรถฟรี, ลงประกาศขายบ้านฟรี, ประกาศขาย, ประกาศซื้อ, ลงประกาศฟรี, ฟรีลงประกาศ, ฟรีประกาศ, ประกาศฟรี, ฟรีโพส, ฟรี ลงประกาศโพสตบทความที่ Free Post Forum สนใจคลิ้กที่ภาพ
Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

‘Summer Street’ ซีฟูดปิ้งย่างริมทาง อร่อยสไตล์สุดแนว


ร้านเนยหอมออนไลท์ ขายปลีก-ส่ง
สั่งได้ทาง Inbox ...
Inbox : inbox : http://m.me/noeyhorm
รีวิวขนมอื่น ๆของร้านเนยหอม : inbox : http://bit.ly/31l6PBf

‘Summer Street’ ซีฟูดปิ้งย่างริมทาง อร่อยสไตล์สุดแนว


ถ้าใคร เป็นสาวก Social Media ตัวยง น่าจะเคยเห็นรูป หรือข้อมูลการรีวิวของร้านซีฟูดปิ้งย่าง Summer Street อยู่บ้าง รวมไปถึงตามเว็บบอร์ดรีวิวอาหารต่างๆ
      
       ถึงแม้จะเปิดให้บริการไม่นาน แต่ Summer Street มาแรงกว่าที่คิด เมื่อลูกค้ากลุ่มแรกมากินแล้วติดใจในความสดของวัตถุดิบ บวกกับสไตล์ในการตกแต่งร้านที่มีเอกลักษณ์ ก็พากันถ่ายรูปแชร์ข้อมูลลงใน Social Media และเว็บบอร์ดต่างๆ
      
       ท้ายที่สุดก็ถูกแชร์ต่อกันไปเรื่อยๆ ท้าทายให้นักชิมทั้งหลายมาลองความสดและอร่อย ของร้านซีฟูดปิ้งย่างน้องใหม่ ย่านซอยอารีย์ 2 ถนนพหลโยธินแห่งนี้
      
       Summer Street เกิดจากหุ้นส่วนทางธุรกิจ 3 คน คือ “วี-ประเสริฐ คุรุปรีชารักษ์” และเพื่อนอีก 2 คน “ออย” และ “ก้าบ” ทั้งหมดอยู่ในสายงานเดียวกัน คือ เป็นดีไซเนอร์ นอกจากงานประจำแล้ว ทั้ง 3 คนยังเปิดบริษัทดีไซน์ร่วมกันอีกด้วย อยู่ที่ซอยอารีย์ 2
      
       วีเล่าถึงที่มา และการมองหาโอกาสทางธุรกิจเพิ่มเติมจากงานประจำ และบริษัทออกแบบที่ทำอยู่ มาสู่สายงานที่ไม่มีความถนัด อย่างการเปิดร้านอาหาร
      
       “ไอเดียในการเปิดร้านอาหาร เกิดจากแรงบันดาลใจตอนที่ไปญี่ปุ่น ซึ่งเขาจะมีร้านปิ้งย่างอยู่ริมถนนเยอะมาก เรียกว่าปิ้งย่างสไตล์สึคายะ โดยมากจะเป็นร้านข้างทางง่ายๆ Open Air มีเตาแก๊ส กับวัตถุดิบมาให้ ลูกค้าก็ปิ้งกินไป จิบเบียร์ไป เป็นการให้ลูกค้าปิ้งด้วยตัวเอง อีกอย่างเพราะบ้านเมืองเขาอากาศดีด้วย ร้านประเภทนี้จึงได้รับความนิยมมาก
      
       พอดีกับที่ร้านส้มตำที่เปิด ขายอยู่ข้างออฟฟิศ ในซอยอารีย์ 2 ที่เปิดขายมานานเขาจะเลิกกิจการ พื้นที่เช่าในส่วนนี้ ซึ่งเป็นพื้นที่ข้างทางของถนนซอย (อารีย์ 2) ที่เป็นถนนส่วนบุคคลจึงว่างลง หากเราไม่เอาไว้ อีกไม่นานก็คงมีคนมาเช่าต่อเพื่อทำร้านอาหารข้างทาง ซึ่งในซอยนี้ก็มีอยู่หลายร้าน เลยตัดสินใจลงทุนร่วมกับเพื่อนอีก 2 คนเปิดร้านซีฟูดปิ้งย่าง ให้ลูกค้าปิ้งกินเองในสไตล์สึคายะแบบญี่ปุ่นขึ้น ในชื่อ Summer Street”
      
       ร้านอาหารปิ้งย่างไม่ใช่เรื่องใหม่ หรือเรื่องแปลกในไทย เพราะร้านอาหารสไตล์นี้เกิดขึ้นนานแล้ว แถมยังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ มีทั้งแบบร้านขึ้นห้าง ราคาสูง และร้านหมูกระทะริมถนนที่มีราคาย่อมเยา แต่โดยมากมักจะโฟกัสไปที่เรื่องของเนื้อเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นหมู ไก่ วัว สารพัดรูปแบบ และอาจจะมีซีฟูดเป็นส่วนประกอบ
      
       ในขณะที่ร้าน Summer Street มีคอนเซ็ปต์ของร้านที่ชัดเจนตั้งแต่แรก ว่าจะขายเฉพาะซีฟูด ซึ่งประกอบไปด้วยกุ้งก้ามกราม ปลาหมึก หอยแมลงภู่ หอยเชลล์ หอยหวาน และหอยแครง เลือกใช้น้ำจิ้มซีฟูดรสชาติจัดจ้านในแบบที่ถูกปากคนไทย
      
       เมื่อคอนเซ็ปต์ในเรื่องเมนูอาหารชัดแล้ว อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน และเป็นสิ่งที่จะช่วยสร้างความแตกต่าง และสร้างเอกลักษณ์ให้กับร้านอาหารน้องใหม่ คือ เรื่องของการตกแต่งร้าน ซึ่งต้องยอมรับว่ากลายเป็นเรื่องที่ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสนใจไม่น้อย
      
       “ในส่วนของตัวร้าน พวกเราเลือกที่จะนำโครงรถเก่าของน้ำอัดลมแบรนด์เอส ที่มีลักษณะเป็นตู้ และเคลื่อนที่ได้อยู่แล้ว มาดัดแปลงใหม่ทั้งหมด เรียกว่าสร้างขึ้นมาใหม่เลยก็ว่าได้จากโครงรถแบบเดิมๆ เพื่อให้ตรงกับความต้องการ และคอนเซ็ปต์ของร้าน
      
       ภายในรถจะถูกสร้างให้สามารถประกอบอาหารได้จริง มีซิงค์สำหรับล้างจาน และบาร์เครื่องดื่มทางด้านหน้าของตัวรถ สำหรับลูกค้าที่อยากดื่มแค่เบียร์ เครื่องดื่ม หรือสั่งเป็น A La Carte ก็จะมีที่นั่งเป็นเก้าอี้แบบสตูลอยู่ 5 ที่ทางด้านหน้า และอีก 3 ที่ทางด้านข้าง จะมีพนักงาน 1 คนยืนประจำอยู่ที่บาร์เพื่อเสิร์ฟเครื่องดื่มโดยเฉพาะ
      
       บอกได้เลยว่าการลงทุนในจุดนี้มีราคาสูง เพราะออกแบบตามที่อยากได้ และทำกันเองทุกอย่าง เนื่องจากพื้นที่ตรงนี้มันเป็นพื้นที่เช่า เราคงไม่สามารถตั้งร้านได้อย่างถาวรอยู่แล้ว ดังนั้นก็จะไม่ลงโครงสร้างอะไรที่มันถาวร หากเกิดอะไรขึ้นมาจะได้สามารถเคลื่อนย้ายได้เลยทันที รื้อถอนได้ง่าย โครงสร้างเบาเพราะไม่ได้ก่ออิฐติดกับพื้นที่
      
       อีกทั้งโครงสร้างของร้านค้าสามารถนำมาทำเป็นร้านค้าเคลื่อนที่ได้เลย สามารถขับเป็นรถบนท้องถนนได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องมีการใช้ทะเบียนของรถพ่วง แต่เราไม่ได้ใช้เคลื่อนที่ จอดขายประจำอยู่ตรงซอยอารีย์ 2”
      
       อย่างที่บอกว่า หุ้นส่วนทั้ง 3 คนของ Summer Street ต่างก็เป็นดีไซเนอร์ มีความสามารถทางด้านการออกแบบอยู่แล้ว จึงเลือกที่จะออกแบบ ดีไซน์คอนเซ็ปต์ธุรกิจทุกอย่างขึ้นมาเอง ตั้งแต่การนำโครงรถเก่ามาดัดแปลงจนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมไปถึงเรื่องของคอนเซ็ปต์ในการให้บริการอีกด้วย
      
       ออย ผู้หญิงคนเดียวของกลุ่ม เล่าว่า ตัวเธอเองนั้นพอจะมีประสบการณ์อยู่บ้างจากการที่ทางบ้านทำค้าขาย ทำให้มองออกว่าการเปิดร้านอาหารไม่ใช่เรื่องง่าย อีกทั้งยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่จุกจิกอยู่มาก ดังนั้น คอนเซ็ปต์ต่างๆ ของร้านจึงต้องมีความชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้น การทำงานจะได้ง่าย และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
      
       “ถึงแม้ร้านของเราจะเป็นร้านริมทาง แต่เราก็พิถีพิถันกับรายละเอียดในทุกจุด ด้วยความที่เป็นผู้หญิง และมีอาชีพหลักเป็นนักออกแบบ เมื่อจะเปิดร้านอาหารทั้งทีก็อยากให้ดูดีในทุกรายละเอียด เพื่อให้ลูกค้าเห็นถึงความตั้งใจ
      
       อย่างเรื่องภาชนะที่ใช้ภายในร้าน หลายๆ คนอาจจะเลือกใช้เป็นจานพลาสติก หรือเมลามีนที่ตกแล้วไม่แตก แต่เราเลือกที่จะใช้จานเซรามิกที่ตกแล้วแตก ซึ่งตั้งแต่เปิดร้านมาก็ตกแตกไปแล้วหลายใบ แถมยังมีต้นทุนที่สูงกว่าค่อนข้างเยอะ
      
       แต่เรามองว่าจานเซรามิกมันดูดีกว่า และจะส่งผลถึงความรู้สึกของลูกค้าด้วย ให้เขาเห็นว่าเราเลือกใช้แต่ของคุณภาพดี ตั้งแต่ตัววัตถุดิบ ไปจนถึงอุปกรณ์ต่างๆ ในร้าน
      
       เรื่องของเมนูอาหาร เราตั้งใจไว้แต่แรกแล้วว่าจะมีแต่ซีฟูดเท่านั้น เพื่อให้เข้ากับสโลแกนของร้านที่เป็น Charcoal Grill Seafood อีกทั้งอาหารซีฟูดมันไม่มีไขมัน เหมือนพวกเนื้อหมู ที่จะส่งผลให้เกิดควันจากการปิ้งมากกว่า อาจจะรบกวนเพื่อนบ้านเราได้ อีกทั้งลูกค้าบางคนเป็นมุสลิมไม่กินเนื้อหมู หรือบางคนไม่กินเนื้อวัว ซีฟูดจะเป็นอะไรที่กินได้ทุกคน แต่เราก็จะขอความร่วมมือจากลูกค้าว่าอย่านำอาหารอย่างอื่นจากข้างนอกเข้ามา แจม เพราะเคยเจอเหมือนกัน บางคนแอบซื้อไส้กรอก ซื้อเบคอนเข้ามาปิ้ง
      
       ส่วนเรื่องของน้ำจิ้ม เราก็ลงมือปรุงสูตรเอง เริ่มต้นจากรสชาติที่เราชอบ กินแล้วคิดว่ามันอร่อย เราเป็นคนต่างจังหวัด จะชอบกินรสชาติเผ็ด เปรี้ยว ไม่กินเค็มเลย แต่ช่วงแรกลูกค้าก็ทักว่ารสชาติน้ำจิ้มยังไม่โดนนะ อยากให้เค็มขึ้นกว่านี้ เราก็รับฟังเสียงของลูกค้าที่โดยมากเป็นคนกรุงเทพฯ ว่าเขาชอบกินรสชาติแบบไหน แล้วก็ค่อยๆ ปรับ จนถูกปากลูกค้าส่วนใหญ่
      
       หรือแม้แต่เรื่องของอย่างโต๊ะอาหาร ถ้าลองสังเกตดีๆ จะเห็นว่าโต๊ะที่เราเลือกใช้จะมีขนาดค่อนข้างเตี้ยกว่าโต๊ะตามร้านอาหารทั่ว ไป รวมถึงความสูงของเตาที่เลือกใช้ เพื่อให้ลูกค้าปิ้งย่างอาหารได้ในมุมที่สะดวกขึ้น และไม่บังระดับสายตาเวลาพูดคุยกันกับเพื่อนร่วมโต๊ะ และให้ความรู้สึกที่สบายมากกว่า”
      
       ในขณะที่ก้าบ หุ้นส่วนคนที่ 3 ที่มีส่วนสำคัญในการออกแบบ ดัดแปลงโครงสร้างของตัวร้านค้านั้น พื้นเพเดิมเป็นคนสมุทรสงคราม ทำให้เกิดความได้เปรียบในการเข้าถึงแหล่งวัตถุดิบ และยังบริหารจัดการในเรื่องของการส่งวัตถุดิบสดๆ ได้เกือบทุกวัน กลายเป็นจุดเด่นของร้านซีฟูดปิ้งย่างริมถนนในย่านอารีย์แห่งนี้
      
       “จุดแรกเลยที่ลูกค้าสะดุดตา คือ การตกแต่งร้านของเรา ที่ดูเป็นสไตล์แบบฝรั่ง แต่สิ่งที่ทำให้ลูกค้ากลับมากินร้านเราอีก คือ ความสดของวัตถุดิบ ยอมรับว่าราคาอาจจะไม่ได้ถูกมากเพราะเรามีค่าขนส่งเกือบทุกวัน แต่ลูกค้าก็รับได้ เพราะเราเลือกใช้แต่วัตถุดิบคุณภาพดี ถ้าเกิดลูกค้าเจอว่าไม่สดสามารถเอามาเปลี่ยนได้เลยทันที ในส่วนของน้ำจิ้มก็ไม่ใส่ผงชูรส แต่ใช้มะนาวเป็นหลัก
      
       เราจะจัดชุดซีฟูดปิ้งย่าง เป็น 3 ไซส์ S M L ไซส์ S 399 บาท เหมาะสำหรับกิน 2 คน ไซส์กลาง 599 บาท เหมาะสำหรับกิน 2-3 คน ส่วนไซส์ L 999 เหมาะสำหรับกินกัน 4 คนขึ้นไป ทุกชุดจะมีอาหารเหมือนกันหมด แตกต่างกันที่ปริมาณ ซึ่งชุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจะเป็นชุดกลาง
      
       สำหรับผลตอบรับ ต้องบอกว่าดีกว่าที่พวกเราคาดไว้มาก ถึงแม้ช่วงที่ผ่านมาจะเป็นหน้าฝน ลูกค้าก็เหมือนเตรียมใจมาแล้วว่าอาจจะเจอฝนตกได้ตลอดเวลาเพราะมันเป็นร้าน แบบเปิด ถึงแม้เราจะมีพลาสติกใสคลุมให้เวลาที่ฝนตก แต่ยังไงก็มีเปียกบ้างอยู่ดี บางครั้งตกหนักๆ ก็น้ำท่วม ลูกค้าก็นั่งยกขาขึ้น แล้วกินกันต่อ
      
       เหมือนกับลูกค้าเขาเตรียมใจเอาไว้แล้ว ว่าถ้ามากินจะต้องเจอกับอะไรบ้าง บางครั้งรอคิวนานเพราะเราตั้งโต๊ะได้แค่ 8-10 โต๊ะเท่านั้น ก็อาจจะไปเดินเล่นแถวนี้ก่อน หรือบางครั้งมาก็เจอฝนตก น้ำท่วมซอย มีคนเดินผ่านไปผ่านมาอยู่ตลอด แต่มันก็กลายเป็นคาแรกเตอร์ของร้าน Summer Street ไปแล้ว”
      
       ถึงจะเป็นร้านแบบ Open Air ติดริมถนน แต่พวกเขาก็พยายามอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการเช่าที่จอดรถ และห้องน้ำ ไว้ที่ตึกยศวดี ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวร้าน
      
       สำหรับที่จอดรถจะเสียค่าบริการชั่วโมงละ 20 บาท ซึ่งถือว่าไม่แพงเลยสำหรับย่านกลางเมืองอย่างซอยอารีย์ ลูกค้าเองก็ยินดีที่จะเสียเงินในจุดนี้ แลกกับความสบายใจ ไม่ต้องกลัวว่าจอดรถไว้แล้วจะโดนล็อกล้อ ส่วนห้องน้ำสามารถใช้บริการได้ฟรี แต่ต้องเดินมาขอกุญแจจากพนักงานก่อน
      
       วีขยายความต่อไปว่า กลุ่มเป้าหมายของ Summer Street มีหลากหลาย ตั้งแต่เด็กวัยรุ่น คนทำงานตอนต้น ไปจนถึงคนรุ่นป้า เพราะอาหารซีฟูดถูกปากคนไทยทุกวัยอยู่แล้ว
      
       “ร้านจะเปิดให้บริการวัน จันทร์-เสาร์ เวลา 16.00-22.00 น. ส่วนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะเริ่มขายตั้งแต่ 17.00-23.00 น. ตั้งแต่เปิดร้านมาคนก็เต็มทุกโต๊ะเกือบทุกวัน ถ้าเป็นช่วงวันเสาร์ลูกค้าจะต้องรอคิวนานหน่อย การตลาดที่เราใช้มีเพียงแค่ทาง Facebook และ Instagram เท่านั้น”
      
       ต้องขอบคุณลูกค้าทุกคนมากที่มากินแล้วติดใจ ก็จะช่วยอัปรูป เช็กอิน จนร้าน Summer Street ถูกแชร์ต่อใน Social Media เยอะ และยังช่วยแนะนำแบบปากต่อปาก ทำให้ร้านเป็นที่รู้จักได้เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
      
       ทุกคนจะรู้ดีว่าช่วงหน้าฝนมันเป็นช่วงปราบเซียนของคนค้าขายที่เป็น ร้าน Open Air เป็นช่วงที่ยอดขายตกที่สุดแล้ว แต่พวกเราจงใจเลือกที่จะเปิดร้านในช่วงหน้าฝนเพื่อทดลองตลาด แต่ลูกค้าของเราก็สู้ไม่ถอย บางคนถึงกับเตรียมใส่เสื้อกันฝนมากัน 2 คนเพื่อนั่งดื่มเบียร์อยู่ตรงหน้าบาร์ ทำให้พวกเราประทับใจมาก
      
       การทดลองตลาดในช่วงหน้าฝนนี้ เพื่อเตรียมรับมือ เตรียมความพร้อมสำหรับช่วงหน้าหนาวที่กำลังจะมาถึง ด้วยความที่เป็นมือใหม่ในธุรกิจนี้ก็ต้องเรียนรู้จากลูกค้าไปเรื่อยๆ ซึ่งในช่วงหน้าหนาวน่าจะได้เห็นการตกแต่งร้านที่เปลี่ยนไปตามฤดู สร้างความสนุกให้แก่ลูกค้าไปเรื่อยๆ ด้วยความที่เป็นดีไซเนอร์ เรื่องของการออกแบบพวกเราไม่ทิ้งลายอยู่แล้ว
      
       ส่วนเรื่องการขายแฟรนไชส์นั้น ยอมรับว่ามีคนติดต่อเข้ามาตลอด แต่เราไม่พร้อมที่จะขายแฟรนไชส์ เพราะกลัวว่าจะคุมในเรื่องคุณภาพของวัตถุดิบไม่ได้
      
       การขยายธุรกิจในส่วนของร้านอาหารในอนาคต อาจจะเป็นเรื่องของการสร้างแบรนด์ใหม่ๆ เลือกใช้คอนเซ็ปต์ของร้านอีกแบบหนึ่งไปเลย จะไม่มายุ่งกับ Summer Street ซึ่งมีคอนเซ็ปต์ของการเป็น Street Food อย่างชัดเจน”
      
       ความสำเร็จของ Summer Street คือความสำเร็จของร้านอาหารข้างทางที่เกิดจากการดีไซน์รูปแบบของธุรกิจที่ ชัดเจน สร้างความประทับใจให้แก่ผู้บริโภค และความโดดเด่นให้แก่ธุรกิจได้อย่างลงตัว
      
       หากสนใจแลกเปลี่ยนประสบการณ์ หรือจับคู่ธุรกิจ สามารถติดต่อกับทั้ง 3 คนได้ที่ www.facebook.com/pages/SummerStreet
      
       @@@ข้อมูลโดย “นิตยสาร SMEs PLUS”@@@


credit by : http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9580000046600


ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://bit.ly/2kYAKOt
MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0










































 
...

ร้านค้าติดล้อเคลื่อนที่ ร้านค้าแนวใหม่ ไม่ต้องเซ็งร้าน ใช้รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง ทำเป็นร้านขายกาแฟ,ร้านฟาสฟู๊ดแบบไทยๆ,ร้านข้าวแกงเคลื่อนที่,ขายกล้วยทอดติดล้อ,เมนูด่วนบนครัวเคลื่อนที่,เคลื่อนย้ายเลือกทำเลค้าขายได้,ง่ายต่อการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.