ร&#3657;านค&#3657;าต&#3636;ดล&#3657;อขายของ: On Wheels

เลี้ยงง่าย กินง่าย ริมทางที่ kofuku japanese sandwich

อากาศเริ่มเย็นเราก็เริ่มออกหาร้านอาหารแบบโอเพ่นแอร์นั่งชิวๆกันอีกแล้ว วันนี้มาร้าน kofuku japanese sandwich ที่ Town In Town อยู่ริมถนนหน้าโครงการ The Scene จอดรถในโครงการได้เลยค่ะ ตัวร้านเค้าเอารถมาทำเป็นห้องครัว คือทำอาหารกันบนรถดัดแปลง แล้วก็วางโต๊ะเก้าอี้ที่ริมถนน (นั่งแบบนี้ทำใจเรื่องฝุ่นละอองค่ะ) เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแบบอาหารจานเดียว กินด่วนๆอย่าง ข้าวหน้าหมู ข้าวหน้าไก่ ข้าวแกงกะหรี่ คัทซึด้ง เกี๊ยวซ่า ทาโกะยากิ ราคาไม่แพงเลย จานนึงราคาไม่เกิน 100 บาท ที่ชอบสุดคงเป็นเกี๊ยวซ่าเพราะรสออกเผ็ด ส่วนข้าวหน้าไก่คาราเกะราดไข่ตุ๋นก็รสชาติใช้ได้ค่ะ ร้านเริ่มเปิด 6 โมงเย็นเป็นต้นไปค่ะ พนักงานบริการโอเคดีค่ะ

Kofoku เป็นร้านอาหาร food truck เคลื่อนที่ แต่ร้านนี้จะขายประจำอยู่ที่หน้าห้าง The scene Town in Town ร้านเปิดช่วงเย็นๆหน่อยนะคะ เวลาก็ไม่แน่นอน ประมาณ 18.00-19.00 น.ค่ะ แนวของอาหารที่ขายจะเป็นอาหารญี่ปุ่นจำพวก ข้าวแกงกะหรี่ ข้าวหน้าหมูทอด ประมาณนี้ค่ะ มีโต๊ะเก้าอี้ให้นั่ง บรรยากาศสุดชิวริมถนน อร่อยได้ในราคาสบายกระเป๋า

ร้านอาหารญี่ปุ่นริมทาง อร่อยทานง่าย

ผ่านไปผ่านมาหลายทีมากๆ
ดุเป็นร้านรถเข็นที่มีคนนั่งตลอดๆ เลยลองมาทานบ้าง

เมนูเป็นแบบติ๊กๆ แล้วกดกระดิ่งเรียกพนักงานมารับออเดอร์
อาหารน้ำดื่มมาไวมากไม่ต้องรอให้โมโหหิว

เมนูข้าวหน้าสันคอหมูไข่ตุ๋น
เนื้อหมูนุ่มมาก ข้าวให้มาเยอะสุดๆ แอบติว่ามันแอบจืดไปนิดแต่รีไม่ได้ปรุงไรเพิ่มนะ
(มีซอสให้ปรุงแต่ทานหมดแล้วค่อยเห็นโท่วๆๆ)

เมนูข้าวหน้าไก่คาราเกะ+แกงกะหรี่ชีส
อันนี้ไม่ได้ทานเองแต่แอบชิมนิดๆ แกงกะหรี่เข้มข้นถูกใจมากพูดเลย

น่ารักตรงที่เป็นร้านอาหารเคลื่อนที่ (แต่จอดเฉยๆ นะ)
Kofuku จะเน้นพวกอาหารจานเดี่ยวนะคะ เช่น ข้าวแกงกะหรี่ ข้าวหน้าสันคอหมูตุ๋นไข่อะไรประมาณนั้นอ่ะ ไม่มีของดิบๆ เหมือนร้านอาหารญี่ปุ่นเต็มรูปแบบ แต่ร้านนี้น่ารักและมีจุดเด่นอยู่ตรงรถที่จอดไว้ เพราะว่าร้านนี้ไม่มีหน้าร้านค่ะ จะเป็นรถกระบะที่ได้ดัดแปลงเป็นร้าน จอดอยู่หน้าโครงการ The Scene จะเริ่มออกมาประมาณช่วงเย็นๆ หน่อย ถึงเวลาประมาณ 3-4 ทุ่มได้ค่ะ

คนนั่งทานก็มีเรื่อยๆ นะคะ ... ต้องบอกว่าครั้งแรกไม่ประทับใจเลย เพราะว่าพนักงานทำใบสั่งอาหารหายอ่ะ รออยู่นานมากก็ยังไม่ได้ทาน พอถึงเวลาทวงถามก็มาบอกลอย ๆ เลยว่าใบสั่งอาหารหาย ก็แอบหงุดหงิดไปหน่อย ไม่แน่ใจว่าใช่เจ้าของร้านรึเปล่า มาขอโทษและไม่ได้คิดค่าน้ำที่ได้ทานรอไปก่อนหน้านี้ ก็เลยให้โอกาสมาลองอีกสักครั้ง แล้วครั้งนี้ก็ไม่ผิดหวังค่ะ รสชาติใช้ได้อยู่ ถ้าไม่รู้จะทานอะไร ทานแบบนี้ก็ง่ายๆ ดีเหมือนกันนะคะ

credit by : http://www.wongnai.com/reviews/63992fb656ef443486275b696bd8e724

ธุรกิจอาหาร “Food Truck” กับความอิ่มอร่อยแบบติดล้อ

“Food Truck” ธุรกิจอาหารที่ให้บริการด้วยรถขายอาหารเคลื่อนที่ เป็นอีกหนึ่งรูปแบบธุรกิจการขายอาหารที่มีมานานแล้ว ถือเป็นเสน่ห์และวัฒนธรรมการทานอาหารอย่างหนึ่งที่เราสามารถเห็นได้ในต่าง ประเทศ (ปัจจุบันก็เริ่มมีในเมืองไทยบ้างแล้ว) และเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมอย่างมากในอเมริกา ไม่ว่าเดินไปไหนก็จะเจอกับรถขายอาหารแบบนี้ได้ทั่วไป และบริการนี้ก็เป็นที่ถูกใจชาวอเมริกันชน เพราะสามารถตอบสนองความต้องการใน วิถีชีวิตที่รีบเร่งได้เป็นอย่างดี อาหารส่วนใหญ่จะเป็นแบบทำได้ง่าย เช่น กาแฟ แฮมเบอร์เกอร์ อาหารแนว Fast Food เป็นต้น แต่ก็มีอาหารที่ดีต่อสุขภาพและมีของหวานเช่นกัน บลอกนี้เลยขอนำรถขายอาหาร “Food Truck” ของเมืองนอกมาให้ชมกัน

ธุรกิจ “Food Truck” ได้รับความนิยม และโด่งดังมากในอเมริกา มีรถขายอาหารให้บริการมากมาย จนขนาดที่ว่าเคยมีการทำรายการตระเวนชิมอาหาร “Food Truck” กันมาแล้ว รถขายอาหาร “Food Truck” เหล่านี้ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ไม่เป็นที่ ย้ายไปที่โน่นที่นี่เรื่อยๆ และมีช่วงระยะเวลาการขาย เฉพาะบางช่วงเวลา อย่างเช่นขายสำหรับมือกลางวัน ขายสำหรับมือเย็น หรือมื้อใดมือหนึ่งเท่านั้น ปัจจุบันไม่เฉพาะที่อเมริกาเท่านั้น แต่หลายๆ ประเทศก็เริ่มจะมีธุรกิจ “Food Truck” ให้เห็น (รวมถึงในเมืองไทยก็มีแล้วนะ) และด้านล่างนี้คือส่วนหนึ่งของรถขายอาหารเคลื่อนที่ หรือรถฟู้ดทรัคจากเมืองนอก ที่บลอกนี้ขอนำมาให้ชมกัน

แบทช์ไอศกรีม (Batch Ice Cream)

มาเริ่มต้นกันที่ Batch Ice Cream ฟู้ดทรัคจากอเมริกา รถขายไอศครีมเคลื่อนที่ “Food Truck” ที่ดีไซน์รถออกมาได้เก๋มาก กับแนวโทนสีขาวดำ และการครีเอทออกมาอย่างลงตัว ใช้พื้นที่ตัวรถแบบได้ประโยชน์สุด มีครบทั้งรายการเมนู รายละเอียด ตลอดจน Story ของร้าน เรียกว่าทั้งขาย ทั้งโฆษณาไปได้ในตัว เห็นแว้บแรกแล้วชอบเลย (ตอนแรกนึกว่าเป็นรถขายกาแฟซะอีก ธีมมันใช่เลย … แต่กลายเป็นไอศครีมซะงั้น)
ที่มา: www.trendhunter.com/trends/ice-cream-trucks

รถฟู้ดทรัค แบทช์ไอศกรีม (Batch Ice Cream)

แบทช์ไอศกรีม (Batch Ice Cream) ได้รับความนิยมทั้งจากเด็ก และผู้ใหญ่

The Banh Mi Shop

รถฟู้ดทรัคสีฟ้าสดใสคันนี้ ดัดแปลงมาจากรถตู้ Volkswagen ปี 1968 เป็นรถขายแซนด์วิชเวียดนามขนานแท้ เขาบรรยายไว้อย่างนั้น แต่ดูๆ ตามภาพแล้ว มีบางเมนูมันเหมือนคล้าย ปอเปี๊ยะเวียดนาม (Vietnam Fresh Spring Rolls) นะ บางเมนูก็หน้าตาเหมือนแซนด์วิช และมีอีกหลายเมนู ที่ดูแล้วน่าตาน่าทาน น่าอร่อย และดูจะดีต่อสุขภาพ จากข้อมูลที่เช็คดู “Food Truck” คันนี้อยู่ที่ประเทศ philippines ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเมืองไทยนี่เอง
ที่มา: www.facebook.com/thebanhmishop

The Banh Mi Shop ร้านขายแซนด์วิชเวียดนาม

The Banh Mi Shop “Food Truck”

อเวนิวคอฟฟี่ (Coffee Avenue)

ต่อกันด้วย “Coffee Avenue” ฟู้ดทรัคที่ดัดแปลงตกแต่งมาจากรถ Volkswagen ได้อย่างลงตัว แบรนด์กาแฟท้องถิ่นๆ กับการเริ่มต้นธุรกิจเล็ก ด้วยการขายกาแฟร้อนๆ ให้ได้ดื่มกันอุ่นๆ เข้ากับสภาพอากาศหนาวๆ ของเมืองหลวงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ได้เป็นอย่างดี
ที่มา: www.trulydeeply.com.au/madly/2010/05/31/coffee-avenue-a-great-brand-experience-on-wheels/เบลเยียม

อเวนิวคอฟฟี่ (Coffee Avenue)

ฟู้ดทรัค รถขายกาแฟเคลื่อนที่

Leoni’s Deli

มาต่อกันที่ “Food Truck” ขนาดเล็ก น่ารักคันนี้ เป็นรถขายฮอทดอก Leoni’s Deli จากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
ที่มา: www.leonisdeli.com

ฮอทดอก Leoni’s Deli

รถขายฮอทดอกเคลื่อนที่

Engine Hot Dogs

ปิดท้ายกันด้วย Engine Hot Dogs รถขายฮอทดอกเคลื่อนที่จากประเทศอังกฤษ คันนี้เป็นรถที่ดัดแปลงมาจากรถดับเพลิงเก่า (ด้านหน้ายังมีไฟกระพริบที่ยังสามารถใช้งานได้) สีสันสะดุดตาสไตล์สหราชอาณาจักร (เห็นแล้วต้องนึกถึงตู้โทรศัพท์เก่าๆ สีแดง ของอังกฤษเลย)
ที่มา: www.pinterest.com/pin/357684395380036017/

Engine Hot Dogs

และทั้งหมดนี้ ก็เป็นภาพบางส่วนของธุรกิจรถอาหารเคลื่อนที่ “Food Truck” ที่มีในเมืองนอก และอย่างที่เกริ่นข้างต้นมาว่า ธุรกิจนี้กำลังมา เมืองนอกได้รับความนิยมสูง และในเมืองไทยก็เริ่มมีให้เห็นกันบ้างแล้วหลายๆ ร้าน ตามโซนกรุงเทพชั้นในย่านธุรกิจที่มีคนพลุกพล่าน ไม่ว่าจะเป็นแฮมเบอร์เกอร์ ไนท์บาร์ และนมสด เดียววันหลังจะหยิบมาบลอกให้ได้ติดตามกันต่อค่ะ แล้วติดตามกันอีกนะค่ะ สุดท้ายนี้ขอบคุณทุกๆ ท่านที่ติดตามบลอกค่ะ

credit by : http://www.rejumping.com/food-and-beverage/ธุรกิจอาหาร-food-truck/

อร่อยติดล้อกับ Food Truck ธุรกิจครัวเคลื่อนที่

Food truck หรือ รถขายอาหารเคลื่อนที่ ซึ่งอาจจอดประจำที่ใดที่หนึ่ง หรือ เคลื่อนย้ายไปเรื่อย ๆ ตามแต่สะดวก เป็นที่นิยมมากในต่างประเทศ โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะยืนต่อแถวแบบ Take away หรือ ห่อกลับบ้าน หรือ รับประทานระหว่างทาง เพราะร้านแบบนี้มักไม่ค่อยมีที่นั่งให้รับประทาน แต่เมื่อเทรนด์ food truck เข้ามาในไทยจึงมีการปรับให้มีที่นั่งรับประทานเล็ก ๆ เพื่อให้ความสะดวกกับลูกค้า

ชาคร จรัสบุษราคัม เจ้าของร้านเตี๋ยวเรือท้ายซอย 8 นำเทรนด์การขายของบนรถบรรทุกเล็กเคลื่อนที่อย่างตะวันตกมาประยุกต์กับการ ขายอาหารไทยอย่างก๋วยเตี๋ยวเรือ และยังมีแนวคิดรวบรวมเพื่อนพ้อง Food Truck ให้ได้หลายคัน มาปักหลักขายที่ธารา อเวนิว รังสิตนครนายกคลอง 3 ซึ่งกำลังจะเปิดอย่างเป็นทางการช่วงปลายปีนี้

ณัฏฐ์เขมิกา กุลสิริจิรโชติ เจ้าของร้านหน่องน้ำปั่น เล่าว่า ขายน้ำปั่นบนรถ food truck มา 2-3 ปีแล้ว ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ส่วนใหญ่ลูกค้าจะสะดุดตากับรถก่อนแล้วจึงเข้ามาซื้อ จากนั้นก็นำกล้องมาภ่ายภาพกับรถ จึงคิดว่าความน่ารักของรถถือเป็นจุดเด่นดึงดูดความสนใจลูกค้า และสามารถเพิ่มยอดขายได้ดี

การเคลื่อนที่ขายไปเรื่อย ๆ ของ food truck ทำให้ลูกค้าอาจไม่ทราบสถานที่ขายที่แน่นอน บางร้านจึงต้องนำเทคโนโลยีด้านการสื่อสารเข้ามาเป็นตัวช่วยในการเข้าถึง ลูกค้า เช่น การพูดคุยกับลูกค้าผ่านเฟซบุ๊ค ไลน์ หรือ อินสตาแกรม เพื่ออัพเดทความเคลื่อนไหวของร้าน ซึ่งร้านเตี๋ยวเรือท้ายซอย 8 ก็ใช้กลยุทธ์นี้ในการประชาสัมพันธ์ตัวเองเช่นกัน

ในสังคมที่เร่งรีบ ธุรกิจครัวเคลื่อนที่แบบ Food truck นับว่าตอบโจทย์คนยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี และด้วยความแปลกใหม่ของการแต่งรถให้ดูน่ารัก สะดวก อร่อย รวดเร็ว และราคาไม่แพงมาก เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมือง จึงถูกใจวัยรุ่นและคนวัยทำงาน ทำให้ธุรกิจร้านอาหารติดล้อแบบ food truck เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ ในเมืองไทย.

โดย เยมิณ แหวนเครือ สำนักข่าวไทย อสมท

credit by : http://www.tnamcot.com/news_resource/อร่อยติดล้อกับ-food-truck-ธุรกิจ

กาแฟถุงกระดาษ 3 สลึงเคลื่อนที่

credit by : http://www.กาแฟถุงกระดาษ3สลึง.com/web/index.php?view=category&catid=2&option=com_joomgallery&Itemid=465

หากท่านกังวลเรื่องทำเล หรือยังไม่มีทำเลในการเปิดร้าน เราขอเสนอทางเลือกให้กับท่าน นั้นคือ กาแฟถุงกระดาษ 3 สลึง รถเคลื่อนที่ ซึ่งจะมีข้อดีหลายอย่าง อาทิเช่น ท่านจะได้ลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น ท่านสามารถจอดขายยังจุดใดก็ได้ที่ท่านต้องการ ... ท่านสามารถออกขายเวลาใดก็ได้

หากท่านกังวลว่าแล้วจะหารถมาจากใหนล่ะ ทางเรามีบริการจัดหารถพร้อมตกแต่งให้ใช้งานได้ทันทีไม่ต้องเสียเวลาไปตกแต่ง เพิ่ม และยังรวมไปถึงเรื่องของไฟแน๊นซ์อีก ทางเรามีบริการเบ็ดเสร็จ เรียกได้ว่าหากท่านมีใจที่จะเปิดร้าน เพียงท่านมีหลักฐานทางการเงิน ที่เป็นรายได้ของท่าน มาปรึกษาเราสิครับ เราพร้อมจะให้ท่านได้สิทธิพิเศษในการทำธุรกิจร่วมกับเรา

‘เพ็ทช็อปเคลื่อนที่’ ธุรกิจมะหมามาแรง!

ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง ปัจจุบันมีสินค้าหลากหลายที่ผลิตออกมาเพื่อตอบสนองกลุ่มคนรักสัตว์ แต่กระนั้นร้านจำหน่ายสินค้าประเภทนี้รายใหม่ ๆ ก็ยังมีช่องทางที่จะแจ้งเกิดได้ แม้ว่าจะขาดเงินทุนจำนวนมากในการเปิดร้านในลักษณะถาวร อย่างธุรกิจ “ร้านเพ็ทช็อปเคลื่อนที่” ที่ “ช่องทางทำกิน” จะนำเสนอวันนี้...

สดชื่น ปิตานุสร-อารัน บุญญวรรณ เจ้าของร้านเพ็ทช็อปเคลื่อนที่ชื่อ “ร้านตูบแต่งตัว” เล่าให้ฟังว่า ยึดอาชีพขายสินค้าเกี่ยวกับสุนัขมาได้ประมาณ 4 ปีแล้ว โดยย้ายทำเลไปเรื่อย ๆ เช่น วันจันทร์ขายประจำที่หลังสวนซอย 5 วันอังคารกับวันพฤหัสบดีขายที่ตึกทานตะวัน ถนนวิภาวดีรังสิต วันพุธขายที่กระทรวงสาธารณสุข วันศุกร์ขายที่ซอยอารีย์ โดยเหตุผลที่ไม่เปิดร้านถาวร เพราะคิดว่าการเปิดร้านอยู่กับที่ต้องรอลูกค้ามาหา แต่การออกไปหาลูกค้าเองน่าจะดีกว่า สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายกว่า ซึ่งสินค้าในร้านก็จะมีให้เลือกเกือบครบ ขาดแต่ในเรื่องการให้บริการตัดขนและอาบน้ำสุนัขเท่านั้นที่ร้านลักษณะนี้ไม่สะดวกที่จะทำ

ข้อดีของการเปิดร้านแบบเคลื่อนที่ นอกจากเข้าหาลูกค้าได้ง่าย ได้กลุ่มลูกค้าที่เป็นพนักงานประจำออฟฟิศที่ไม่ค่อยมีเวลาเดินหาซื้อสินค้า ยังประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายเรื่องการตกแต่งร้าน ค่าเช่าร้าน ลงได้มาก

“สินค้าในร้านมีเกือบทุกอย่างเท่าที่ลูกค้าต้องการ ทั้งอาหาร ขนมขบเคี้ยว ซึ่งเป็นแบรนด์เราเอง ชื่อ ลัคกี้ และยังมีพวกฟลูออไรด์แท่ง ปลอกคอ สายจูง ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ภาชนะใส่อาหารสุนัข หวีแปรงขน รวมถึงยากำจัดเห็บหมัด ยาถ่ายพยาธิ นอกจากนั้นก็เป็นพวกแฟชั่นน้องหมาซึ่งเปลี่ยนไปตามฤดูกาล เช่น หน้าหนาว เสื้อผ้าจะเยอะหน่อย เพราะเจ้าของมีโอกาสแต่งตัวให้น้องหมาได้มาก”

สำหรับอาหารสุนัข เจ้าของร้านนี้แนะนำว่า ไม่ควรสต๊อกไว้ในปริมาณเยอะ ๆ เนื่องจากบางชนิดมีส่วนประกอบจำพวกถั่วและข้าวโพดมาก หากเก็บไว้นานจะมีกลิ่นเหม็นหืนหรืออาจเกิดเชื้อราได้ จึงควรสต๊อกให้พอแค่การจำหน่ายในแต่ละสัปดาห์ เพราะถึงอย่างไรก็ต้องเจอลูกค้าในแต่ละรอบสัปดาห์อยู่ดี

นอกจากนั้นยังมีเคล็ดลับมัดใจลูกค้าสำหรับร้านที่ไม่มีหน้าร้าน คือความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงสุนัข เพราะการให้คำปรึกษาถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจเดินเข้าร้านได้ง่ายขึ้น

“การทำธุรกิจประเภทนี้ต้องมีความใส่ใจลูกค้า ต้องดูว่าลูกค้าต้องการอะไร เช่น ลูกค้ามีปัญหาอะไร ก็สามารถปรึกษาได้ แต่ถ้าเรื่องไหนที่เราไม่รู้ก็จะบอกให้รอหน่อย ก็จะไปถามคุณหมอที่รู้จักกัน แล้วเราก็เก็บรายละเอียดมาบอกลูกค้า ตรงนี้เป็นกลยุทธ์หนึ่ง”

การเลือกทำเลก็สำคัญไม่แพ้กัน สดชื่นบอกว่าที่ร้านจะดูในเรื่องของตลาดและกลุ่มผู้เลี้ยง เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้ทราบว่ามีโอกาสมากน้อยแค่ไหน อย่างที่ร้านเน้นกลุ่มพนักงานประจำ พนักงานออฟฟิศ ที่ไม่ค่อยมีเวลา ก็จะเลือกทำเลที่ใกล้กับออฟฟิศใหญ่ ๆ หรือย่านธุรกิจเป็น ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้กำลังซื้อสูง แต่ไม่ค่อยมีเวลา!

“ในหนึ่งสัปดาห์ก็จะเปลี่ยนไปขายหลาย ๆ ที่ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นจุดประจำ เพราะมีลูกค้าประจำที่เป็นฐานลูกค้าเดิมของเราอยู่ก่อนแล้ว บางทีหากลูกค้าต้องการซื้อของเพิ่มเขาก็จะโทรฯมาถาม และตามมาซื้อสินค้าจากอีกจุดหนึ่ง ในกรณีที่ต้องการสินค้าด่วน” เป็นกลยุทธ์ของร้านที่เจ้าของร้านรายนี้บอกเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ทุนเบื้องต้นสำหรับการเปิดร้านแบบนี้ ใช้งบก้อนแรกไม่เกิน 50,000 บาท ส่วนใหญ่เป็นค่าสินค้าครั้งแรก ขณะที่อุปกรณ์จำเป็นนั้นหลัก ๆ มีเพียงไม่กี่ชิ้น อาทิ ชั้นวางของ (เน้นแบบถอดประกอบได้ เคลื่อนย้ายสะดวก), กระจาดใส่สินค้า, โต๊ะหรือแผงวางสินค้า เป็นต้น โดยที่ทุนหมุนเวียนของร้านนี้อยู่ที่ประมาณ 20,000 บาทต่อสัปดาห์ ซึ่งอาจจะมากหรือน้อยกว่านี้ขึ้นอยู่กับยอดขาย

รายได้ที่เป็นกำไรหลังหักทุน จะอยู่ที่ประมาณ 30% ของยอดขายทั้งหมด

“สินค้ากลุ่มสุนัขสามารถ ขายได้เรื่อย ๆ เพระว่าคนที่เลี้ยงกลุ่มนี้จะมองสุนัขที่เลี้ยงเป็นเหมือนเพื่อน ทำให้พยายามเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ อย่างอาหารสุนัขก็ขายได้ตลอด ที่สำคัญตอนนี้มองว่าตลาดคนเลี้ยงโตขึ้น แต่จำนวนร้านในตลาดยังไม่พอกับความต้องการ การเปิดร้านเพ็ทช็อปเคลื่อนที่แบบนี้จึงถือว่ามีโอกาส มีช่องว่างที่ดีอยู่ เหมาะกับคนที่มีทุนไม่สูงพอที่จะเปิดเป็นร้านถาวร” เจ้าของร้านกล่าวทิ้งท้าย

ใครสนใจจะอุดหนุนสินค้าของร้านตูบแต่งตัว ก็สามารถไปได้ตามจุดขายที่บอกไว้ข้างต้น หรือต้องการติดต่อ สดชื่น ปิตานุสร-อารัน บุญญวรรณ ก็โทร. 08-9512-8263 ทั้งนี้ สำหรับใครที่สนใจทำธุรกิจกับมะหมา แต่มีทุนน้อย บางที “เพ็ทช็อปเคลื่อนที่” แบบร้านนี้ อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีก็ได้.

http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=70520&NewsType=2&Template=1

credit by : http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=iamlady&month=02-2009&date=28&group=22&gblog=31

อดีตเชฟได้ไอเดียจากรูปในหลวงเปิดร้านกาแฟเคลื่อนที่

อดีตเชฟร้านอาหารจ.ราชบุรีได้แนวคิดเปิดร้านกาแฟหลังเห็นรูปในหลวงทรงดื่มกาแฟ ครั้งทรงเสด็จเยี่ยมราษฎรชาวเขา เพื่อให้หันมาปลูกกาแฟแทนการปลูกฝิ่น

วันนี้(21 พ.ย.57) ร้านกาแฟสดที่เห็นอยู่นี้เป็นไอเดียของอดีตเชฟร้านอาหารในจังหวัดราชบุรีที่ผันตัวมาเป็นเจ้าของธุรกิจ จำหน่ายกาแฟสดไปตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากผู้ที่ชื่นชอบในการดื่มกาแฟ โดยร้านกาแฟสไตล์บ้านไม้ในยุโรปถูกดัดแปลงบนรถสไตล์ญี่ปุ่น มีนางสาวคนึงนิตย์ อันโนนจารย์ อายุ 24 ปี ชาวจังหวัดลำปาง เป็นเจ้าของร้าน ตะเวนไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อจำหน่ายกาแฟสดให้กับคนรักกาแฟได้ดื่ม

ขณะที่นางสาวคนึงนิตย์ เล่าให้ฟังว่า เรียนรู้การชงกาแฟมาจากการทำงานพิเศษช่วงเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งหลังเรียนจบจากคณะศิลปกรรมและสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนา เชียงใหม่ ก็ได้เดินทางเข้ามาทำงานที่กรุงเทพมหานคร เป็นกราฟฟิกดีไซน์ในบริษัททัวร์ และได้ท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ จนได้รู้จักกับสวนผึ้งราชบุรี และตัดสินใจออกจากงานมาเป็นเชฟที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรี และได้รู้จักกาแฟที่ปลูกโดยชาวกระเหรี่ยงที่ลำปาง ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตัวเอง และจากการที่ได้เห็นรูปของในหลวงรูปนึงซึ่งเคยเห็นเมื่อนานมาแล้ว เป็นรูปที่ในหลวงทรงนั่งดื่มกาแฟเมื่อครั้งเสด็จไปบนเขา เพื่อทรงเยี่ยมราษฎรชาวเขา และให้ชาวเขาหันมาปลูกกาแฟแทนการปลูกฝิ่นหรือกัญชา จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจที่จะทำร้านกาแฟและเอาเมล็ดกาแฟจากชาวเขาบ้านเกิด มาใช้เพื่อคืนรายได้สู่ชุมชนชาวเขา

สำหรับการออกแบบรถก็ได้แรงบันดาลใจจากแบบบ้านไม้ในเมืองเล็กๆ ในหุบเขาของยุโรป ตกแต่งร้านให้ดูแล้วสบายๆ และก็ไม่ลืมที่จะตั้งรูปของในหลวงที่เป็นเหมือนแรงบันดาลใจ ซึ่งเป็นรูปในหลวงเมื่อครั้งเสร็จไปยังหมู่บ้านชาวเขาอันทุระกันดาร ในพระหัตทรงยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม

ทั้งนี้ ผู้ที่ชื่นชอบในการดื่มกระแฟสดและจะเดินทางไปเที่ยวรับลมหนาวที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี สามารถแวะจิบกาแฟร้านนี้ได้ โดยร้านกาแฟคนึงนิตย์จะไปจอดอยู่ใต้ร่มเงาต้นไม้ตามถนนสายหลักในอำเภอสวนผึ้ง ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ส่วนวันธรรมดาจะขายอยู่บนถนนสายแม้นรำลึก เขตเทศบาลเมืองราชบุรีซึ่งอยู่ใกล้กับศาลากลางจังหวัดราชบุรี

อดีตเชฟได้ไอเดียจากรูปในหลวงเปิดร้านกาแฟเคลื่อนที่1.jpg

อดีตเชฟได้ไอเดียจากรูปในหลวงเปิดร้านกาแฟเคลื่อนที่2.jpg

อดีตเชฟได้ไอเดียจากรูปในหลวงเปิดร้านกาแฟเคลื่อนที่3.jpg

อดีตเชฟได้ไอเดียจากรูปในหลวงเปิดร้านกาแฟเคลื่อนที่4.jpg

อดีตเชฟได้ไอเดียจากรูปในหลวงเปิดร้านกาแฟเคลื่อนที่5.jpg

อดีตเชฟได้ไอเดียจากรูปในหลวงเปิดร้านกาแฟเคลื่อนที่6.jpg

credit by : http://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=47202&t=news

มาเธอร์ ทรัคเกอร์ (เบอร์เกอร์เคลื่อนที่)

ร้านมาเธอร์ ทรัคเกอร์ (Mother Trucker) ร้านรถเคลื่อนที่ได้ทางร้านจึงสามารถเลือกไปจอดอยู่ตาม Event ต่าง ๆ ซึ่งสามารถคอยเช็กจุดจอดของร้านทาง Facebook ได้ นอกจากนั้นร้านจะประจำอยู่ที่ถนนไกรสีห์ ข้างๆอาคารจอดรถ กทม. ตั้งแต่เวลา 19.00-21.00 น., ซอยรามบุตรี วงเวียนswensen's 21.00-24.00 น.

ไฮไลท์ ของที่นี่ก็คือ เบอร์เกอร์ สูตรอาหารต่างๆ ทางร้านศึกษาและทดลองกันอยู่ประมาณ 1 ปีก่อนเปิดร้านอาหารของที่นี่ทุกอย่างตั้งใจทำเองตั้งแต่ Buns หรือขนมปังที่มีส่วนประกอบหลักทั่วไปอย่างแป้งสาลี ถูกหมัก ไว้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง ก่อนจะอบไปจนถึง Onion Rings (30 บาท) ชุบแป้งทอด มันฝรั่งชุบแป้งทอดที่หน้าตาคล้าย Potato Wedge และซอส Thousand Island วัตถุดิบที่เลือกสรรมาล้วนแล้วแต่เป็นของไทย เพราะทางร้าน เห็นว่าของไทยเราสดกว่าและรสชาติดีไม่แพ้กัน เนื้อวัวที่ใช้ทำ Patty หนัก 150 กรัมนั้นเลือกใช้แต่ส่วนสันคอเท่านั้นเพื่อความชุ่มฉ่ำของเนื้อ

แนะ นำให้ลองตัวที่เป็น Premium (149 บาท) ด้วยราคาที่มากกว่าแบบธรรมดาเพียงแค่ 30 บาท แต่เบอร์เกอร์จะมาพร้อมกับ Aussie Cheese และ เบคอนกรอบ ๆ ต่างจากธรรมดาที่มีแค่ Onion Ring กับผักร็อคเกต ส่วน ใครที่ไม่ทานเนื้อสามารถลอง เบอร์เกอร์หมู ธรรมดา 89 บาท หรือ Premium เพิ่ม 30 บาทได้ชีสและเบคอนเช่นกัน

credit by : http://www.painaidii.com/business/146742/mother-trucker-bkk-10200/lang/th/

ธุรกิจร้านกาแฟเคลื่อนที่ เข้าถึงลูกค้า-ไม่ต้องเช่าที่

ปัจจุบันธุรกิจกาแฟสดนั้น ถือว่าเป็นธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่ผู้ประกอบการกำลังนิยมเป็นอย่างมาก

จะเห็นว่าตามสถานบริการน้ำมันเชื้อเพลิง (ปั๊ม) แหล่งท่องเที่ยว รวมถึงตามถนนเส้นหลัก จะมีร้านกาแฟสดใหญ่น้อยขึ้นราวกับดอกเห็ด ทั้งที่เป็นแฟรนไชส์ยี่ห้อดัง ตั้งแบรนด์เอง และร้านที่เป็นซุ้มขนาดเล็ก ขณะที่อีกมุมหนึ่ง "กาแฟโบราณ" ก็กลับมาคืนชีพอีกครั้ง มีผู้บริโภคที่นิยมชมชอบเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน แต่คนที่ประกอบกิจการร้านกาแฟโบราณในยุคใหม่ หันมาเปิดร้านในรูปแบบของ "ร้านกาแฟเคลื่อนที่" ทั้งที่เป็นรถยนต์มาดัดแปลงเป็นร้านกาแฟ รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง และ รถเข็น กลุ่มนี้จะเน้นไปเจาะกลุ่มลูกค้าถึงที่ในย่านชุมชน โดยผู้ประกอบการกลุ่มนี้บอกว่า ร้านกาแฟโบราณเคลื่อนที่ คือ ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าที่ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับยุคที่เศรษฐกิจฝืดอย่างปัจจุบัน

วิชัย โสดา หนุ่มใหญ่วัย 42 ปีจากเมืองช้าง ก็เป็นอีกคนที่หันหลังให้ท้องนาที่ ต.พระแก้ว อ.สังขะ จ.สุรินทร์ มุ่งหน้าสู่เมืองเมืองกรุง ยึดอาชีพขายกาแฟโบราณเคลื่อนที่ในรูปแบบของรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ตระเวนย่านคนพลุกพล่านของถนนรามคำแหง จับกลุ่มเป้าหมาย 3 จุดด้วยกัน คือ เช้าปักหลักย่านหมู่บ้านธนากรณ์ เขตมีนบุรี เที่ยงไปจอดขายหน้าธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สาขาสุขาภิบาล 3 เขตสะพานสูง ตกเย็นหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาสุขาภิบาล 3 เช่นกัน

"เดิมที่ผมทำนา มีที่มรดกอยู่ 50 ไร่ แต่ตอนหลังต้นทุนสูง ปุ๋ย ยาฆ่าแมลงแพง ขายข้าวกำไรน้อย ผมเลยตัดสินใจเข้ากรุงเทพฯ รับจ้างทั่วไป เพื่อหารายได้เสริม พอถึงฤดูทำนาก็กลับบ้าน ตอนหลังเห็นญาติขายกาแฟโบราณเคลื่อนที่โดยใช้รถจักรยานยนต์พ่วงข้างได้กำไรดี ตอนนั้นผมมีรถจักรยานยนต์เก่าๆ คันหนึ่ง ยี่ห้อซูซูกิ อาร์-100 เลยขอสูตรกาแฟโบราณจากญาติ ทั้งกาแฟร้อน กาแฟเย็น โอเลี้ยง โกโก้ ชาดำเย็น ชามะนาว และกาแฟสำเร็จรูปพร้อมชง พร้อมจ้างช่างต่อรถ 8,000 บาท ทำเป็นรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ซื้ออุปกรณ์ต่างๆ อีกราว 7,000 บาท รวมแล้วลงทุน 1.5 หมื่นบาท ไปเช่าที่พักในซอยรามคำแหง 172 เขตมีนบุรีเป็นที่นอน พอกลางวันตระเวนขายกาแฟโบราณเคลื่อนที่ได้ 7 ปีแล้ว" วิชัย กล่าว

วิชัยบอกอีกว่า กาแฟที่ขายเป็นกาแฟสูตรโบราณ กาแฟเย็นจะขายดีที่สุด โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนจะขายดีมาก เฉลี่ยแล้วขายได้วันละ 2,500-3,000 บาท หักต้นทุนแล้วกำไรอย่างน้อยวันละ 1,000 บาท ถือว่าเป็นรายได้ที่ดีพอสมควร และดีกว่าทำนาหลายเท่า ขายไม่กี่ปีสามารถสร้างที่บ้านที่บ้านเกิดได้ 1 หลัง รถปิกอัพอีก 1 คัน ต่อไปคิดว่าจะขายกาแฟโบราณเคลื่อนที่โดยไม่มีกำหนด เพราะกำไรดี อย่างกาแฟเย็น 1 แก้ว ใส่นมลงทุน 7 บาท แต่ขายแก้วละ 15 บาท หากไม่ใส่นมขายแก้ว 13 บาท ขณะค่าเช่าที่ไม่ต้องจ่าย

เช่นเดียวกับ "ไพโรจน์ ทองดอนอ่อน" หนุ่มเมืองชาละวัน วัย 32 ปี จาก อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร หลังเป็นช่างทาสีมาแรมปี จึงพบกับสัจธรรมแห่งความจริงว่า ลำพังเป็นลูกจ้างอย่างดีก็แค่เลี้ยงตัวเองได้ไปวันๆ ในที่สุดจึงตัดสินใจไปเช่ารถปิกอัพ ซื้อแฟรนไชส์กาแฟ 4 หมื่นบาท ขายกาแฟโบราณ ขนมปังอบไอน้ำตามชุมชนต่างๆ ขายได้ไม่ถึงครึ่งปีมีเงินดาวรถยนต์เป็นของตัวเอง เพราะแต่ละวันจะได้กำไรวันละ 1,500-2,000 บาท

"ตอนที่ผมเป็นช่างทาสี ได้ค่าแรงวันละ 250 บาท ส่วนภรรยาได้ค่าแรงวันละ 150 บาท 2 คนได้วันละ 400 บาท ลูกเริ่มโตแล้ว จึงหารือกับภรรยา เพื่อหางานใหม่ ที่เป็นกิจการของตัวเอง ผมเป็นคนชอบกินกาแฟ แฟนผมมีฝีมือในการทำขนม ทั้งขนมปังอบไอน้ำไส้สังขยา แซนด์วิช แฮมเบอเกอร์ ผมเลยตัดสินใจขายกาแฟโบราณกับขนมปังสังขยา จากนั้นได้รวบเงินที่มีอยู่และยืมญาติมาบ้างไปเช่ารถปิกอัพวันละ 400 บาท ไปซื้อแฟรนไชส์กาแฟโบราณมา 4 หมื่นบาท มีหลังคารถ มีชุดกาแฟ ตู้อบไอน้ำ และอุปกรณ์อื่น แต่ไม่มีสูตรกาแฟ ไม่มีสูตรสังขยา หรือการอบขนมปัง เวลาผมไปซื้อกาแฟโบราณ ผมจะสังเกตสูตรมาเป็นเดือนว่าสูตรเป็นอย่างไร เลยมาทดลองเอง พอเป็นแล้วออกตระเวนขายตามชุมชนต่างๆ ขายได้ 5 เดือนสามารถดาวน์รถปิกอัพเป็นของตัวเอง ตอนนี้มีทั้งกาแฟร้อน กาแฟเย็น ชาเย็น โอเลี้ยง โอยัวะ ขายถุงละ 15-20 บาท" ไพโรจน์ กล่าว

เดิมทีไพโรจน์ไปเช่าบ้านอยู่ย่านถนนสุขสวัสดิ์ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ แต่ไปขายที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 ย่านบางนา แล้วจะวกกลับทางอ่อนนุช อุดมสุข แล้วกลับบ้าน บางวันไปขายย่านร่มเกล้า ลาดกระบัง พอถึงหน้าเทศกาลออกไปขายในต่างจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยว ทั้งภูเก็ต กระบี่ เป็นต้น แต่ตอนนี้ลูกค้าติดแล้ว จะเน้นขายตามหมู่บ้านในเขตบางนา รามฯ 2 บางพลี พร้อมกับย้ายบ้านมาอยู่ที่ ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ขายได้วันละ 3,000 บาท หักแล้วจะมีกำไรเกินครึ่ง จึงคิดว่าจะยึดอาชีพนี้ต่อไป

นับว่าเป็นอาชีพที่น่าสนใจพอสมควร หากใครสนใจเปิดร้านกาแฟโบราณสูตรต่างๆ พร้อมขนมปังอบไอน้ำสังขยา วันเสาร์ที่ 25 เมษายนนี้ ไพโรจน์ ทองดอนอ่อน จะไปสอนที่ "คม ชัด ลึก ฝึกอาชีพ" ถามได้ที่โทร.0-2338-3356-7

"ดลมนัส กาเจ"

ง่ายกับการชงกาแฟโบราณ

กาแฟเย็น
กาแฟ 1 ถุง
1.ผงกาแฟโบราณ 4 ช้อนตวง
2.นมข้น 2 ช้อนชา
3.น้ำตาล 1 ช้อน
4.นมสด   1 ช้อน
5.น้ำ         1 แก้ว
น้ำแข็งพอประมาณ


กาแฟร้อน
กาแฟ 1 แก้ว
1.ผงกาแฟ 3 ช้อนตัก
2.นมข้น        2 ช้อน
3.นมสด        1 ช้อน

กำแฟดำ
กาแฟ 1 แก้ว
1.ผงกาแฟ 4 ช้อนตัก
2.น้ำตาล 2 ช้อน

credit by : http://www.komchadluek.net/detail/20090425/10472/ธุรกิจร้านกาแฟเคลื่อนที่เข้าถึงลูกค้าไม่ต้องเช่าที่.html

โชห่วยเคลื่อนที่

หลัง จากที่แม็คโคร (Makro) ยึด Positioning ที่ชัดเจนกับการเป็นมิตรแท้โชห่วย ในฐานะของผู้ค้าส่งกับผู้ค้าปลีก และได้จัดกิจกรรมให้ความรู้กับโชห่วยมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งถูกท้าทายอย่างหนักจาก 7-Eleven

เมื่อผู้นำร้านสะดวกซื้อเดินเกมเอาใจโชห่วยแบบเต็มที่เพื่อหาพันธมิตรและ สมาชิกแฟรนไชส์จากโชห่วยอย่างไม่หยุดยั้ง แม้จะเป็นคู่ชกทางอ้อมแต่งานนี้แม็คโครไม่ยอมปล่อยให้ภาพลักษณ์ที่แนบชิดกับ โชห่วยเจือจาง จึงปิ๊งไอเดีย “มินิมาร์ทเคลื่อนที่” เอาใจคอโชห่วยที่ขาดทำเลดี

แม็คโครจับมือกับ ดีเอฟเอ็ม มินิทรั๊ค ซึ่งเป็นรถกระบะอเนกประสงค์สำหรับขนสินค้าและดัดแปลงเป็นร้านค้าเคลื่อนที่ สำหรับสมาชิกบัตรแม็คโครเพื่อใช้ในการเปิดร้านค้ามินิมาร์ทเคลื่อนที่ เป็นรูปแบบรถเร่ขายสินค้ายุคใหม่ที่จะมีการจัดการเป็นระบบ โดยแม็คโครเป็นที่ปรึกษาในการจัดสินค้า ซึ่งสินค้าของแม็คโครโดยเฉลี่ยแล้วจะถูกกว่าดิสเคานต์สโตร์ราว 5% ปรานต์ทิพย์ อัคริมาชญานนท์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) บอก

“ดีเอฟเอ็มจะจัดรถ Mobile PR ไปประชาสัมพันธ์ตามตรอกซอกซอยต่างๆ เพื่อเข้าหาชุมชนและเชิญชวนให้ผู้ที่สนใจเข้ามาเป็นเจ้าของธุรกิจนี้ โดยจะใช้ระยะเวลา 1 ปี ไปในทุกจังหวัดที่มีสาขาของแม็คโคร” พิทยา ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี เอฟ เอ็ม มินิทรั๊ค (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินธุรกิจนำเข้ารถบรรทุกขนาดเล็กจากจีน บอก

ปรานต์ทิพย์บอกเพิ่มเติมว่า สำหรับแม็คโคร 1 สาขาจะครอบคลุม 4 ชุมชน ปัจจุบันนี้แม็คโครมี 45 สาขา ครอบคลุมเกือบ 200 ชุมชนทั่วประเทศ โดยความร่วมมือครั้งนี้กับดีเอฟเอ็ม มินิทรั๊ค จะช่วยเติมเต็มในพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีโชห่วยหรือร้านค้ารูปแบบอื่นๆ

พิทยาให้รายละเอียดว่า สำหรับผู้ที่สนใจ ต้องมีเงินลงทุนเริ่มต้นสำหรับค่ารถ 285,000 บาท และเมื่อรวมค่าหลังคาอีก 80,000 บาท ดังนั้นลงทุนไม่เกิน 400,000 บาท ขณะที่โมเดลสินค้าที่ทางแม็คโครจัดให้นั้นจะลงทุนไม่เกิน 100,000 บาทต่อโมเดล

“อยากให้โชห่วยมีพัฒนาการเหมือนร้านกาแฟ เมื่อสมัย 10 ปีที่แล้วมีแต่ร้านกาแฟโบราณ ดูเชยๆ แต่ตอนนี้กลายเป็นธุรกิจของคนรุ่นใหม่นิยมมาเปิดร้านกาแฟสวยๆ เน้นดีไซน์ การตกแต่ง ดูทันสมัยสอดรับกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคปัจจุบัน”

ปัจจุบันแม็คโครมีสมาชิกกว่า 500,000 ราย ขณะที่โชห่วยที่จดทะเบียนมีราว 680,000 ราย แต่หากรวมที่ยังไม่จดทะเบียนแล้ว ประเมินว่าน่าจะมีถึง 1 ล้านแห่ง และที่ผ่านมาแม็คโครให้งบสนับสนุนโชห่วยราว 10 ล้านบาทต่อปี และมีโชห่วยกว่า 600 แห่งที่แม็คโครทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงและปรับปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยพบว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 35% บางรายเพิ่มขึ้นจากยอดขายวันละ 2,000 บาท เป็น 7,000 บาท จนเปิดสาขาที่ 2 ก็มี ปรานต์ทิพย์ให้ข้อมูล

นอกเหนือจาก “ถูกใจ” ร้านมินิมาร์ทติดแอร์ของแม็คโคร ที่เป็นต้นแบบให้กับโชห่วยยุคใหม่แล้ว การบุกเบิกร้านโชวห่วยเคลื่อนที่นับเป็นอีก Strategic Move สำคัญของแม็คโคร ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสการเปิดร้านโชวห่วยได้ง่ายขึ้น โดยมีความคล่องตัวทั้งในเรื่องของทำเลและการหาลูกค้า ไม่ต้องรอให้ลูกค้าเดินมาที่ร้าน แต่ไปหาลูกค้าถึงที่ ในชุมชนห่างไกลที่ยังไม่มีใครไปจับจอง และการหาทำเลดีๆ ต้องใช้เงินทุนสูง แน่นอนว่า หากบิ๊กไอเดียนี้สำเร็จ แม็คโครเองจะมีลูกค้าขาประจำในสังกัดเพิ่มมากขึ้น และขยายไปยังตลาดใหม่ๆ มากขึ้น

credit by : http://www.positioningmag.com/content/โชห่วยเคลื่อนที่

บริจาคเงินและสิ่งของให้สถานสงเคราะห์ต่างๆ

ชวนบริจาคเงินและสิ่งของให้สถานสงเคราะห์ต่างๆ, ผมรวมรายชื่อไว้ให้ ติดต่อได้ตามสะดวกครับ

ชวนทำทานครับ
ช่วยบริจาคเงินให้เด็กและผู้ด้อยโอกาสตามสถานสงเคราะห์ต่างๆ นะครับ
ร่วมกันทำในสิ่งที่คุณสามารถช่วยทำได้...บริจาคเงินและสิ่งของกันนะครับ

เลือกและติดต่อด้วยตนเองได้จากรายชื่อต่อไปนี้ครับ >>

สถานสงเคราะห์เด็ก
1. สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนปากเกร็ด โทร. 02-583-3000
2. สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพญาไท โทร. 02-584-7254-55
3. สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนรังสิต โทร. 02-577-2347
4. สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านบางละมุง(ชลบุรี) โทร. 038-241-373
5. สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านปากเกร็ด โทร. 02-583-8343
6. สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านมหาเมฆ โทร. 02-286-2013
7. สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านราชสีมา โทร. 044-242-552
8. สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านศรีธรรมราช โทร. 075-356-166
9. สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านหนองคาย โทร. 042-407-387
10. สถานสงเคราะห์เด็กชายจังหวัดยะลา โทร. 073-274-488
11. สถานสงเคราะห์เด็กบ้านแคนทอง (ขอนแก่น) โทร. 043-337-533
12. สถานสงเคราะห์เด็กบ้านเวียงพิงค์ (เชียงใหม่) โทร. 053-121-161
13. สถานสงเคราะห์เด็กบ้านสงขลา โทร. 074-333-223
14. สถานสงเคราะห์เด็กปัตตานี โทร. 073-460-131
15. สถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี โทร. 02-354-7484
16. สถานสงเคราะห์เด็กหญิงจังหวัดสระบุรี โทร. 0-3626-6708
17. สถานสงเคราะห์เด็กหญิงอุดรธานี โทร. 0-4229-5074 (ไม่มีคนรับ)
18. สถานสงเคราะห์เยาวชนมูลนิธิมหาราช(ปทุมธานี) โทร. 02-577-1267

สถานแรกรับเด็ก
1. สถานแรกรับเด็กชายปากเกร็ด โทร. 02-583-8345
2. สถานแรกรับเด็กหญิงบ้านธัญญพร โทร. 02-577-6572

สถานสงเคราะห์คนชรา
1. สถานสงเคราะห์คนชราบ้านเขาบ่อแก้ว (นครสวรรค์)โทร. 056-204-039
2. สถานสงเคราะห์คนชราบ้านจันทบุรี โทร. 039-326-496
3. สถานสงเคราะห์คนชราเฉลิมราชกุมารี (หลวงพ่อเปิ่นอุปถัมภ์) (นครปฐม) โทร. 034-338-412
4. สถานสงเคราะห์คนชราเฉลิมราชกุมารี (หลวงพ่อลำใยอุปถัมภ์) (กาญจนบุรี) โทร. 034-531-441
5. สถานสงเคราะห์คนชรานครปฐม โทร. 034-255-102
6. สถานสงเคราะห์คนชราบ้านทักษิณ (ยะลา) โทร. 073-257-565, 073-212-904
7. สถานสงเคราะห์คนชราบ้านธรรมปกรณ์ (เชียงใหม่) โทร. 053-278-573
8. สถานสงเคราะห์คนชราบ้านธรรมปกรณ์ (โพธิ์กลาง) (นครราชสีมา) โทร. 044-242-521
9. สถานสงเคราะห์คนชราบ้านธรรมปกรณ์ (วัดม่วง) (นครราชสีมา) โทร. 044-242-490
10. สถานสงเคราะห์คนชราบ้านบางแค บริเวณสถานสงเคราะห์คนชราบ้านบางแค โทร. 02-413-1141
11. สถานสงเคราะห์คนชราบ้านบางแค 2 บริเวณสถานสงเคราะห์คนชราบ้านบางแค 2 โทร.02-455-6318
12. สถานสงเคราะห์คนชราบ้านบางละมุง (ชลบุรี) โทร. 038-241-121
13. สถานสงเคราะห์คนชราบ้านลพบุรี โทร. 036-413-706
15. สถานสงเคราะห์คนชราบ้านศรีตรัง โทร. 075-214-883
16. สถานสงเคราะห์คนชราบ้านมหาสารคาม โทร. 043-777-124, 0-4372-1524
17. สถานสงเคราะห์คนชราวัยทองนิเวศน์ (เชียงใหม่) โทร. 053-471-491
18. สถานสงเคราะห์คนชราวาสนะ (พระนครศรีอยุธยา) โทร. 035-359-277

สถานสงเคราะห์คนพิการ
1. สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนพิการทางสมอง และปัญญาปากเกร็ด โทร. 02-583-6815
2. สถานสงเคราะห์เด็กพิการทางสมองและปัญญา (หญิง) ปากเกร็ด โทร. 02-583-4246
3. สถานสงเคราะห์เด็กพิการทางสมองและ ปัญญาปากเกร็ด โทร. 02-583-8426
4. สถานสงเคราะห์เด็กพิการและทุพพลภาพปากเกร็ด โทร. 02-583-8396
5. สถานสงเคราะห์คนพิการการุณยเวศม์ (ชลบุรี) โทร. 038-241-741, 038-240-137
6. สถานสงเคราะห์คนพิการและทุพพลภาพ บางปะกง (ฉะเชิงเทรา) โทร. 038-528-290
7. สถานสงเคราะห์คนพิการและทุพพลภาพพระประแดง (สมุทรปราการ) โทร. 02-462-5232
8. สถานสงเคราะห์คนไข้โรคจิตทุเลา (ปทุมธานี) โทร. 02-577-1864
9. สถานสงเคราะห์คนไข้โรคจิตทุเลาหญิง (ปทุมธานี) โทร. 02-577-2898

ศูนย์ฟื้นฟูอาชีพคนพิการ
1. ศูนย์พัฒนาอาชีพคนพิการ (โรงงานปีคนพิการสากล) (นนทบุรี) โทร. 02-583-8415
2. ศูนย์ฟื้นฟูอาชีพคนพิการหนองคาย (หนองคาย) โทร. 042-407-478
3. ศูนย์ฟื้นฟูอาชีพคนพิการขอนแก่น โทร. 043-246-080
4. ศูนย์ฟื้นฟูอาชีพคนพิการนครศรีธรรมราช โทร. 0-75-375-255
5. ศูนย์ฟื้นฟูอาชีพคนพิการบ้านทองพูนเผ่าพนัส (อุบลราชธานี) โทร. 045-254-092
6. ศูนย์ฟื้นฟูอาชีพคนพิการพระประแดง (สมุทรปราการ) โทร. 02-462-5008
7. ศูนย์ฟื้นฟูอาชีพคนพิการหยาดฝน (เชียงใหม่) โทร. 053-471-327
8. สถานฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อุบลราชธานี) โทร. 045-285-469
9. สถานสงเคราะห์คนพิการจังหวัดอุบลราชธานี โทร. 045-285-359

สถานสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่ง
1. สถานสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งกุ่มสะแก (เพชรบุรี) โทร. 032-425-416
2. สถานสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งชายธัญญบุรี( ปทุมธานี) โทร. 02-577-1312
3. สถานสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งหญิงธัญญบุรี (ปทุมธานี) โทร. 02-577-1148
4. สถานสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งทับกวาง (สระบุรี) โทร. 036-357-320
5. สถานสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งบ้านเมตตา (นครราชสีมา ) โทร. 044-922-666
6. สถานสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งภาคใต้(นครศรีธรรมราช) โทร. 075-376-226
7. สถานสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งวังทอง (พิษณุโลก) โทร. 055-311-217
8. สถานสงเคราะห์บ้านนิคมปรือใหญ่ (ศรีสะเกษ) โทร. 045-630-661
9. สถานสงเคราะห์ประจวบคีรีขันธ์ โทร. 032-554-388

สถานแรกรับคนไร้ที่พึ่ง
1. สถานแรกรับคนไร้ที่พึ่งนนทบุรี โทร. 0-2583-0044
2. สถานแรกรับคนไรที่พึ่งสันมหาพน (เชียงใหม่) โทร. 0-5347-1492, 053-471-771 (ห่างไกล ลำบาก)

**********************************************************************************************************

การ ให้อามิสทาน คือการให้วัตถุทาน ๑๐ อย่าง มีข้าว น้ำ ผ้า ยานพาหนะ ดอกไม้ ของหอม ของลูบไล้ ที่นอน ที่พัก เครื่องประทีป หรือให้ปัจจัย ๔ มีจีวร เป็นต้น ย่อมให้ด้วย เหตุต่าง ๆ กันเป็น ๘ ประการคือ

๑. บุคคลบางคนให้ทาน เพราะหวังผลตอบแทน มุ่งสั่งสมการให้ทาน ด้วยคิดว่าถ้าตายไปแล้วจักได้เสวยผลตอบแทนนี้ จึงให้ข้าว ให้น้ำ เป็นต้น แก่สมณะ หรือพราหมณ์ เพื่อให้เป็นเสบียงเลี้ยงตัวในภพหน้า

๒. บุคคลบางคนให้ทาน ไม่ได้หวังผลแห่งทาน แต่ให้เพราะคิดว่าการให้ทานเป็น ความดี เป็นการทำตามคำของบัณฑิตที่กล่าวไว้ดีแล้ว บุคคลที่คิดให้ทานอย่างนี้ เมื่อตายไปเขาย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นดาวดึงส์ เมื่อเสวยผลแห่งกรรมหมดสิ้นแล้ว เขาย่อมกลับมาสู่ความเป็นอย่างนี้อีก คือได้มาเกิดเป็นมนุษย์อีก เป็นการให้เพื่อยังประโยชน์ให้สำเร็จ ให้เกิดความสุข

๓. บุคคลบางคนให้ทาน ไม่ได้คิดว่าการให้ทานเป็นการดี แต่ให้ทานด้วยคิดว่า บิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ยาย เคยให้ เคยทำมา ก็ควรทำไม่ให้เสียประเพณี เมื่อเขาตายไป ย่อมเข้าถึง ความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นยามา เมื่อเสวยผลแห่งกรรมหมดสิ้นแล้ว เขาย่อมกลับมาสู่ความเป็นอย่างนี้อีก คือกลับมาเป็นมนุษย์อีก เป็นการให้เพื่อรักษาประเพณี

๔. บุคคลบางคนให้ทาน ไม่ได้ให้เพราะคิดว่าบิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ยาย เคยให้ เคยทำมา แต่ให้ทานเพราะคิดว่าเราหุงหากินได้ ส่วนสมณะพราหมณ์ ไม่ได้หุงหากิน จึงให้ทานเพราะ ผลแห่งทานนี้ เมื่อเขาตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นดุสิต เมื่อเสวยผลแห่ง ทานหมดสิ้นแล้ว เขาย่อมกลับมาสู่ความเป็นมนุษย์อีก เป็นการให้เพื่ออนุเคราะห์ ให้เพื่อบูชา

๕. บุคคลบางคนให้ทาน ไม่ได้คิดว่าเราหุงหากินได้ ส่วนสมณะพราหมณ์ไม่ได้หุงหากิน แต่ให้ด้วยคิดว่า เราจักเป็นผู้จำแนกแจกทาน เหมือนฤๅษีแต่ครั้งก่อน ๆ เพราะผลแห่งทานนี้ เมื่อเขาตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นนิมมานรดี เมื่อเสวยผลแห่งกรรมหมด สิ้นแล้ว เขาย่อมกลับมาสู่ความเป็นมนุษย์อีก เป็นการให้เพื่อต้องการเป็นผู้มีโชคดี ต้องการมีชื่อเสียง

๖. บุคคลบางคนให้ทาน ไม่ได้คิดว่าจักเป็นผู้จำแนกแจกทาน แต่ให้ด้วยคิดว่า เราให้ทานอย่างนี้ จิตจักเลื่อมใส เกิดความปลื้มใจโสมนัสจึงได้ให้ทาน เพราะผลแห่งทานนี้ เมื่อเขาตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นปรนิมมิตตวสวฺตี เมื่อเสวยผลของกรรมหมดสิ้นแล้ว ก็จักกลับมาสู่ความเป็นมนุษย์อีก เป็นการให้เพื่อปลูกศรัทธาให้จิตเกิดปิติยินดี

ขออนุโมทนาล่วงหน้าครับ

credit by : http://www.protonclub.net/forum/?showtopic=65123