รถขายอาหารช่วยเพิ่มความนิยมเมนูนานาชาติ

กระแสอาหารพื้นเมืองจากต่างประเทศกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆในสหรัฐ อเมริกา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะได้แรงหนุนจากกองทัพรถขายอาหาร หรือที่รู้จักกันในนาม food truck ช่วยกระพือความนิยม โดยรถเหล่านี้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคตามพื้นที่ต่างๆ ทั้งในเมืองใหญ่เมืองเล็ก ผิดกับในอดีตที่เวลาใครสักคนอยากจะลองลิ้มชิมรสอาหารเกาหลี  ไทย หรือเอล ซาลวาดอร์ ก็ต้องออกไปซื้อหากันตามภัตตาคาร ร้านขายอาหารนานาชาติ หรือซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆที่มีอาหารรสชาติต่างแดนจำหน่าย
วัฒนธรรมการกินอาหารริมถนนกำลังแผ่ขยายวงกว้างมากขึ้นและเป็นที่นิยมมาก ขึ้นเรื่อยๆในตลาดสหรัฐฯ นั่นเป็นเพราะบรรดารถขายอาหารมีส่วนในการนำเมนูพื้นเมืองจากต่างแดนไปให้ผู้ บริโภคได้ลองชิมถึงที่ นอกจากนี้เมนูที่นำเสนอก็มีการคัดกรองให้เป็นเมนูง่ายๆที่คนทั่วไปสามารถรับ ประทานได้ไม่ยากลำบาก (เพราะมันสะดวกกับการเตรียมและปรุงอาหารในครัวบนรถด้วย)  คาเซีย แจนโควสกี้ ผู้อำนวยการฝ่ายอาหาร บริษัท สเตอริง ไรซ์ กรุ๊ปฯ ซึ่งเก็บข้อมูลแนวโน้มใหม่ในอุตสาหกรรมอาหารและร้านอาหารในสหรัฐฯ ให้ความเห็นว่า รถขายอาหารเหล่านี้ช่วยนำเสนออาหารรสชาติต่างแดนให้แก่คนหมู่มากในสหรัฐฯ ผ่านช่องทางที่แตกต่างไปจากในอดีต เธอยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า แม้แต่ร้านอาหารที่มีที่ตั้งร้านเป็นหลักแหล่งอยู่แล้ว ยังมีแนวโน้มนำแนวคิดเกี่ยวกับรถขายอาหารมาช่วยเสริมเขี้ยวเล็บการตลาดและ การจำหน่ายของตัวเองเพิ่มเติมอีกด้วย

 ยกตัวอย่างกรณีของร้านชิโพตเล (Chipotle) เชนร้านฟาสต์ฟูดเม็กซิกัน ขณะนี้กำลังทดลองตลาดด้วยการนำรถที่เรียกว่า "ช็อปเฮาส์" (Shop House) ออกตระเวนจำหน่ายอาหารริมถนน เช่นเดียวกับเชนร้านอาหารสเปนที่ชื่อ 100 มอนตาดิโตส (100 Montaditos) ซึ่งปัจจุบันยังไม่เป็นที่รู้จักมากนักแต่มีแผนเปิด 4,000 สาขาในสหรัฐฯในระยะ 10 ปีข้างหน้า ได้เริ่มนำร้านรูปแบบรถขายอาหารมาตระเวนให้บริการตามถนนสายต่างๆแล้ว "รถเหล่านี้ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการที่อาหารนานาชาติแทรกตัวเข้ามาเป็น ส่วนหนึ่งของประสบการณ์การกินอาหารของพวกเรา"

 นักวิเคราะห์กล่าวว่า เสน่ห์ของรถขายอาหารนานาชาตินั้นอยู่ที่ส่วนใหญ่แล้ว อาหารพื้นเมืองเหล่านั้นจะถูกปรุงโดยคนประเทศนั้นๆที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามาทำมา หากินในสหรัฐฯ ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่ามันเป็นอาหารรสชาติต้นตำรับ นอกจากนี้มันยังสอดคล้องกับความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่ชอบทดลองรสชาติแปลกๆ ใหม่ๆของอาหาร ผลการสำรวจของบริษัทวิจัย เทคโนมิค ที่มีชื่อว่า รายงานว่าด้วยนวัตกรรมรถขายอาหารปี 2554 พบว่า 42 % ของผู้บริโภคที่ถูกสุ่มสำรวจซึ่งมีอายุระหว่าง 18-30 ปี ตอบว่า ซื้ออาหารจากรถขายเหล่านี้อย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ส่วนผู้ที่มีอายุระหว่าง 31-40 ปี มีจำนวน 38 % ที่ตอบแบบเดียวกันนี้

 ในทางกลับกัน ความนิยมในรถจำหน่ายอาหารทำให้ผู้ประกอบการบางรายที่เริ่มตั้งต้นธุรกิจจาก รถตระเวนขายอาหาร สามารถเปิดร้านสาขาที่เป็นร้านแบบปกติ ก็มีให้เห็นเช่นกัน เช่นกรณีของร้านพินเช่ ทาโกส์ ที่เริ่มเปิดตัวเป็นรถก่อน (จำหน่ายอาหารเม็กซิกัน) แต่เมื่อได้รับความนิยมมากขึ้นก็หันมาเปิดสาขาเป็นร้านแบบปกติภายในเวลา 5 เดือนต่อมา ซึ่งเจ้าของพินเช่ ทาโกส์ ให้ความเห็นว่า การใช้รถเป็นช่องทางจำหน่ายอาหารก่อนนั้นเท่ากับเป็นการทดลองตลาดที่ใช้ต้น ทุนไม่สูงมากเท่ากับการลงทุนเปิดร้านเลยตั้งแต่ต้น

นอกจากนี้ เจ้าของรถขายอาหารบางรายยังจับมือกับซูเปอร์มาร์เก็ต เข้าไปเปิดสาขาในมุมขายอาหารพร้อมเสิร์ฟของร้าน โดยเฉพาะรายที่มีช่องทางโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์กอ ย่างเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์จนเป็นที่รู้จักในหมู่ลูกค้าอยู่แล้ว กลุ่มนี้มีโอกาสได้รับการต้อนรับจากซูเปอร์มาร์เก็ตอย่างอบอุ่น เพราะซูเปอร์มาร์เก็ตเองก็ได้ประโยชน์จากแฟนๆของรถขายอาหารเหล่านี้ที่ยังคง ตามมาอุดหนุน เข้าลักษณะน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า งานนี้ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย 

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,713   12-15  กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://bit.ly/2kYAKOt