“ยิ้มสยาม” สะเต๊ะติดล้อ เทรนด์ใหม่ น่าจับตามอง

ปัจจุบันธุรกิจค้าขายเริ่มเปลี่ยน ไป จากขายของอยู่กับที่ก็มีการนำรถมาดัดแปลงเป็นสไตล์ร้านของตัวเอง เพื่อสามารถเคลื่อนที่เจาะตลาดตามซอกซอยได้ ที่สำคัญช่วยสร้างภาพลักษณ์ร้านให้โดดเด่น และเพิ่มมูลค่าสินค้าได้
ดังเช่นร้าน “สะเต๊ะ ยิ้มสยาม” ของคุณพิธาน อิมราพร ที่เปลี่ยนรถพาณิชย์ขนาดเล็กมาเป็นรถรถโมบาย “แฟรนไชส์สะเต๊ะ” เจ้าแรกที่นำรถดัดแปลงมาใช้
โดย จุดขายของรถโมบาย คือ เคลื่อนที่สะดวก รุกเข้าหาลูกค้าก่อนได้ ช่วยสร้างภาพลักษณ์ร้านให้โดดเด่นช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้า เลือกช่วงเวลาขายได้ ออกไปรับงานนอกสถานที่ได้ แต่ไม่เหมาะไปจอดขายตามชุมชนแออัด หรือพื้นที่ที่มีจำกัด หรือบางพื้นที่ไม่อนุญาตให้นำรถเข้าไป เพราะเกะกะ และอาจบดบังร้านค้า โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ชั้นในที่ค่อนข้างแออัด

สำหรับรายละเอียดตัวรถโมบาย ราคา 690,000 บาท มีขนาด 165x370x214 เซนติเมตร (หน้ากว้าง 1.7 เมตร ยาว 3.7 เมตร สูง 2.14 เมตร) ตกแต่งมีอุปกรณ์ครบ เป็นรถจีนยี่ห้อ DFM ใช้ได้ 2 ระบบ ทั้งน้ำมัน และก๊าซ NGV ถ้าเป็นน้ำมัน เฉลี่ยกิโลเมตรละ 5 บาท ส่วนก๊าซก็กิโลเมตรละ 50-70 สตางค์
คุณพิธาน บอกว่า ราคารถโมบาย 690,000 บาท ใครที่มองว่าแพง หรือไม่มีเงินลงทุน ทางบริษัทยินดีช่วยติดต่อธนาคาร ประสานงานเรื่องขอกู้ให้ผู้ลงทุนด้วย ยกตัวอย่างเช่น ใน 1 วัน ถ้าขายหมูสะเต๊ะได้ 50 ชุด หรือ 500 ไม้ ราคาไม้ละ 6 บาท จะมีรายได้วันละ 3,000 บาท หรือต่อเดือน 30,000 บาท นำไปผ่อนรถเดือนละ 10,000 บาท ได้สบายๆ

 

 อย่างไรก็ดี การร่วมลงทุนรูปแบบแฟรนไชส์ มีให้เลือก 4 รูปแบบ แต่ละรูปแบบมีดังต่อไปนี้ 

1. ตู้ขายสะเต๊ะ คีออส ขนาด 60x150x240 เซนติเมตร เสิร์ฟได้ 12 เมนู รวมอุปกรณ์การขายทั้งหมด ราคา 37,000-69,000 บาท ทำเลที่เหมาะสม อยู่ในห้างสรรพสินค้า ตึกแถว อาคารพาณิชย์ ย่านชุมชน 

2. ช็อป ขนาด 2x2 เมตร เสิร์ฟได้ 28 เมนู รวมอุปกรณ์ขายทั้งหมด 120,000 บาท ทำเลที่เหมาะสม อยู่ในห้างสรรพสินค้า มหาวิทยาลัย ศูนย์อาหาร

 

 

3. โมบายสะเต๊ะ ขนาด 165x370x214 เซนติเมตร เสิร์ฟได้ 25 เมนู รวมอุปกรณ์ขายทั้งหมด 690,000 บาท ทำเลที่เหมาะสม ตลาด ชุมชน หมู่บ้าน สถาบันการศึกษา หน่วยงาน หน้าห้างสรรพสินค้า ฯลฯ และ

4. ร้าน  ขนาดตั้งแต่ 25-200 ตารางเมตร เสิร์ฟได้ 50-80 เมนู รวมอุปกรณ์ขายทั้งหมด 860,000 บาท ทำเลที่เหมาะสม เช่น หมู่บ้านขนาดใหญ่ สวนอาหาร ห้างสรรพสินค้า ริมฟุตปาธ
สนใจติดต่อ บริษัท ยิ้มสยาม มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เลขที่ 123/292 ถนนสายไหม ซอย 29 แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร โทร.0-2996-4194, 08-1806-3556, 08-6339-1032

ยิ้มสยาม แจ้งเกิด
หมูนุ่ม น้ำจิ้มอร่อย

คุณพิธาน เป็นเจ้าของ บริษัท ยิ้มสยาม มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายหมูสะเต๊ะ ผงหมัก และน้ำจิ้ม ปัจจุบัน ส่งร้านอาหารชื่อดัง อาทิ ร้านฉอเลาะทะเลเผา ยอดลาบเป็ดอุดร

สำหรับที่มาของความอร่อย ในอดีตคุณพิธานเคยได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากร้านอาหารแห่งหนึ่งให้เข้าไป เป็นที่ปรึกษาด้านการตลาด พร้อมกับให้แสดงฝีมือทำออเดิฟหรืออาหารเรียกน้ำย่อย ในเบื้องต้นเขาทำซูชิ แต่สอบตกเพราะรสชาติไม่ผ่าน เลยเปลี่ยนมาเป็นหมูสะเต๊ะ ปรากฏคราวนี้ทำเอาเรตติ้งกระฉูด เพราะใครที่ได้ชิมต่างต้องยกนิ้วให้ ทว่าผ่านไปราวครึ่งปี คุณพิธานตัดสินใจลาออกมาเปิดกิจการของตัวเอง

“ผมคลุกคลีกับผู้คนหลากหลายแวดวงธุรกิจ ประกอบกับวิกฤตปี 2540 มองเห็นโอกาสในธุรกิจอาหาร เพราะเมื่อเทียบกับการค้าอื่นๆ อาหารยังพอไปได้ เพียงแต่ควบคุมต้นทุนให้ดี ฉะนั้น เลยหันมาทำอย่างจริงจัง และเอาดีกับเมนูทานเล่นอย่างหมูสะเต๊ะ เพราะมองว่าเป็นอาหารทานเล่นที่ทุกเพศทุกวัยรู้จักคุ้นเคย สามารถรับประทานได้ทุกกลุ่มอายุ และทุกภาคของประเทศ” ชายหนุ่ม เท้าความที่มา

ในเบื้องต้น คุณพิธานเริ่มจากการขายหมูสะเต๊ะ เมื่อกระแสการตอบรับดี เขาตัดสินใจขยายกิจการในรูปแบบ “แฟรนไชส์” และเพื่อให้ง่ายต่อผู้ที่สนใจร่วมลงทุน เขาได้คิดค้นผงหมักเนื้อสัตว์ และผงเครื่องแกงสำเร็จรูป

สำหรับจุดเด่นของหมูสะเต๊ะยิ้มสยาม คุณพิธาน บอกว่า เนื้อนุ่ม เลือกใช้แต่เนื้อหมูสันนอกไม่ติดมัน ทุกไม้น้ำหนักเท่ากัน 14 กรัม เสียบไม้ที่ผ่านการอบแห้งด้วยความร้อน 100 องศาเซลเซียส นาน 10 ชั่วโมงเพื่อป้องกันเชื้อรา ส่วนน้ำจิ้มรสชาติกลมกล่อม น้ำอาจาดเปรี้ยวหวาน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นองค์ประกอบที่ส่งผลให้หมูสะเต๊ะมีรสชาติอร่อย นอกจากนั้นยังมีเมนูอื่นเสริม เช่น เนื้อสะเต๊ะมีทั้ง เนื้อวัว ไก่ เป็ด ปลา กุ้ง กวาง นกกระจอกเทศ ก๋วยเตี๋ยวสะเต๊ะ ข้าวมันสะเต๊ะ ข้าวอัดสะเต๊ะ สลัดสะเต๊ะ โรตีสะเต๊ะและขนมปังปิ้ง



สะเต๊ะติดล้อ
เทรนด์ใหม่ น่าจับตา

นอกจากคนที่สนใจจะซื้อแฟรนไชส์ “สะเต๊ะยิ้มสยาม” จะได้ธุรกิจที่กึ่งสำเร็จรูป ยังได้รับการบริการจากคุณพิธาน อาทิ เข้าไปช่วยดูทำเลขาย ไปดูแหล่งซื้อวัตถุดิบ สอนวิธีการขาย การทำตลาด

สำหรับสิ่งที่แฟรนไชซี ต้องสั่งซื้อจากบริษัท เจ้าของแฟรนไชส์ กล่าวว่า มี ผงหมักและน้ำจิ้มดิบ ส่วนวัตถุดิบอื่น อาทิ เนื้อสัตว์ ผัก ไม้เสียบหมู ซื้อได้เองตามสะดวก กรณีอยู่ต่างจังหวัด บริษัทจะรับผิดชอบค่าขนส่งจากบริษัทไปยังสถานีขนส่ง แต่อัตราค่าขนส่งจากสถานีขนส่งถึงปลายทางลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบเอง

เนื่องจากรูปแบบแฟรนไชส์ “โมบายสะเต๊ะ” ค่อนข้างแปลกใหม่ ยังไม่มีปรากฏที่ไหน เลยถามถึงที่มาที่ไป ได้ความว่า รูปแบบนี้ คุณพิธานเริ่มมีเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2555 สาเหตุก็เพราะอยากเพิ่มทางเลือกให้ผู้ที่สนใจจะลงทุน แต่มีปัญหาเรื่องทำเลขาย เช่น หาที่ขายไม่ได้ ไม่มีที่ขายประจำ พื้นที่มีจำกัด รวมถึงบุคลากรไม่เพียงพอ

ด้านเงื่อนไขการลงทุน เจ้าของ เผยว่า ไม่มีอะไรมาก เพียงแค่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ต้องซื้อ “ผงหมักหมูและน้ำจิ้มดิบ” ทั้งนี้ก็เพื่อให้เป็นรสชาติเดียวกัน ส่วนวัตถุดิบอื่นๆ เช่น ไม้เสียบหมู หรือแม้กระทั่งเนื้อต่างๆ ก็เป็นสิทธิ์ของแฟรนไชซีซื้อได้เองตามสะดวก

สำหรับกระแสการตอบรับ เจ้าของแฟรนไชส์ เชื่อว่า ต่อจากนี้ไป รูปแบบรถขายสินค้าในเมืองไทยจะเป็นที่นิยม ยิ่งตามคอมมูนิตี้มอลล์ หรือย่านการค้าใหม่ๆ จะยิ่งได้รับความนิยมสูง ทั้งนี้เนื่องมาจากประโยชน์ใช้สอยที่หลากหลาย ภาพลักษณ์ที่ดี ความคุ้มค่า

“การเปิดร้าน 1 ร้าน มีองค์ประกอบเยอะ ทั้ง โต๊ะ เก้าอี้ ค่าตกแต่ง หากวันหนึ่งเลิกกิจการสิ่งเหล่านั้นแปรสภาพกลับมาใช้ใหม่ยาก ไม่เหมือนรถ แม้จะเลิกกิจการ ก็ยังสามารถนำมาใช้งานได้ต่อ มูลค่าหลังเลิกกิจการ ตัวรถโมบายมากกว่า” คุณพิธาน ชี้แจง

ก่อนสิ้นสุดการสนทนา คุณพิธานฝากถึงผู้สนใจทำธุรกิจแฟรนไชส์สะเต๊ะยิ้มสยาม ว่า สามารถเข้ามาสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือข้อสงสัยต่างๆ ได้ที่ บริษัท ยิ้มสยาม มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เลขที่ 123/292 ถนนสายไหม ซอย 29 แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ (02) 996-4194, (081) 806-3556, (086) 339-1032


ข้อมูลจำเพาะ ข้อมูลบริษัท  บริษัท ยิ้มสยาม มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เริ่มดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ สะเต๊ะ ภายใต้ชื่อ “สะเต๊ะ ยิ้มสยาม” เมื่อปี 2552
เจ้าของกิจการ     คุณพิธาน อิมราพร
จุด เด่นหมูสะเต๊ะ    เนื้อนุ่ม น้ำจิ้มอร่อย ทุกไม้น้ำหนักเท่ากัน 14 กรัม ไม้ที่ใช้เสียบผ่านการอบแห้งด้วยความร้อน 100 องศาเซลเซียส  นาน 10 ชั่วโมงกันเชื้อรา
เมนู   “สะเต๊ะ ยิ้มสยาม” มีให้เลือกมาก อาทิ สะเต๊ะไก่ สะเต๊ะกุ้ง สะเต๊ะปลา สะเต๊ะกวางและสะเต๊ะนกกระจอกเทศ
รูปแบบแฟรนไชส์ 4 รูปแบบ 1. ตู้ขายสะเต๊ะ คีออส 2. ช็อป 3. รถโมบาย 4. ร้าน
จุดขายของรถโมบาย เป็นแฟรนไชส์สะเต๊ะเจ้าแรกที่นำรถดัดแปลงมาใช้
ข้อ ดี   เคลื่อนที่สะดวก รุกเข้าหาลูกค้าก่อนได้ ช่วยสร้างภาพลักษณ์ร้านให้โดดเด่นช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้า เลือกช่วงเวลาขายได้ ออกไปรับงานนอกสถานที่ได้

ข้อเสีย   1. ไม่เหมาะไปจอดขายตามชุมชนแออัด หรือพื้นที่ที่มีจำกัด 2. เวลาจะขายต้องหยุดรถ 3. อาจไปบดบังร้านข้างเคียง 4. บางพื้นที่มีกฎห้ามรถจอด
ทำเลที่เหมาะกับรถโมบาย หมู่บ้านจัดสรร  พื้นที่คนพลุกพล่าน สถานที่ท่องเที่ยวตามหัวเมืองใหญ่ๆ สถาบันการศึกษา หอพัก
การยอมรับ  อนาคตตามย่านการค้าใหม่ๆ จะได้รับความนิยมสูงขึ้น เนื่องจาก ภาพลักษณ์ดี ทันสมัย ช่วยส่งเสริมพื้นที่ให้โดดเด่น น่าสนใจ
สนใจติดต่อ  บริษัท ยิ้มสยาม มาร์เก็ตติ้ง จำกัด เลขที่ 123/292 ถนนสายไหม ซอย 29 แขวงสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร
โทรศัพท์   (02) 996-4194, (081) 806-3556, (086) 339-1032


ข้อดี/ข้อเสีย
รายละเอียดตัวรถโมบาย
คุณพิธาน อธิบายคร่าวๆ รถโมบายสะเต๊ะสามารถรุกเข้าหาลูกค้าได้ก่อน รถโมบายสะเต๊ะช่วยสร้างภาพลักษณ์ร้านให้โดดเด่นน่าสนใจ ช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้า สามารถเลือกช่วงเวลาขายได้ ออกไปรับงานนอกสถานที่ได้ รวมถึงรู้รายรับรายจ่ายที่แน่นอน

ส่วนข้อเสียคือ บางตลาด หรือบางพื้นที่ไม่อนุญาตให้นำรถเข้าไป เพราะเกะกะ และอาจบดบังร้านค้า โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ชั้นในที่ค่อนข้างแออัด
สำหรับรายละเอียดตัวรถโมบาย ราคา 690,000 บาท มีขนาด 165x370x214 เซนติเมตร (หน้ากว้าง 1.7 เมตร ยาว 3.7 เมตร สูง 2.14 เมตร) ตกแต่งมีอุปกรณ์ครบ เป็นรถจีนยี่ห้อ DFM ใช้ได้ 2 ระบบ ทั้งน้ำมัน และก๊าซ NGV ถ้าเป็นน้ำมัน เฉลี่ยกิโลเมตรละ 5 บาท ส่วนก๊าซก็กิโลเมตรละ 50-70 สตางค์

ราคารถโมบาย 690,000 บาท ใครที่มองว่าแพง หรือไม่มีเงินลงทุน เจ้าของแฟรนไชส์ กล่าวเพิ่มว่า ทางบริษัทยินดีช่วยติดต่อธนาคาร ประสานงานเรื่องขอกู้ให้ผู้ลงทุนด้วย

“ผมยกตัวอย่างเช่น ใน 1 วัน ถ้าขายหมูสะเต๊ะได้ 50 ชุด หรือ 500 ไม้ ราคาไม้ละ 6 บาท จะมีรายได้วันละ 3,000 บาท หรือต่อเดือน 30,000 บาท นำไปผ่อนรถเดือนละ 10,000 บาท ได้สบายๆ”


credit by : http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1345808881

ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://bit.ly/2kYAKOt