ต้นกำเนิดของ Food Truck เริ่มมาตั้งแต่ยุคหลังสงครามกลางเมืองอเมริกา ที่เกิดการขยายตัวสู่เขตพื้นที่ฝั่งตะวันตกอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นตลาดการค้าขายเนื้อสัตว์ต่างๆ ขนาดใหญ่ โดยเป็นที่นิยมอย่างมากในเท็กซัส Food Truck ฉบับดั้งเดิมเกิดขึ้นโดย Charles Goodnight (ชาร์ลส์ กู๊ดไนท์) ในปี 1866 ชาร์ลส์ต้อนฝูงสัตว์ เขาเล็งเห็นถึงความยากลำบากในการจะทำอาหารแต่ละมื้อในช่วงเวลาที่ต้องต้อน วัว และเมื่อเห็นว่ารถของกองทัพสหรัฐมีความแข็งแรงน่าจะนำมาประยุกต์ใช้งานได้ เขาจึงได้จัดการตกแต่งภายในรถด้วยชั้นวางของและลิ้นชัก เติมเต็มพื้นที่ด้วยภาชนะและเครื่องหุงต้ม พร้อมเพรียงด้วยเครื่องเทศ เครื่องเคียงสำหรับปรุงรส โดยอาหารที่เลือกบรรทุกไปยุคนั้นเป็นเพียงแค่ถั่ว กาแฟ ข้าวโพด และวัตถุดิบอื่นที่สามารถปรุงได้ง่าย ไม่มีอาหารจำพวกผักผลไม้สดหรือว่าเนื้อสัตว์แต่อย่างไร
Food Truck หรือครัวเคลื่อนที่ คือยานพาหนะซึ่งเคลื่อนที่ไปตามจุดชุมชนต่างๆ เพื่อขายอาหารหลากหลายชนิด หากเปรียบเทียบกับเมืองไทยบ้านเรา ก็คงใกล้เคียงกับรถเข็นขายอาหารหรือขนมข้างถนนที่สามารถย้ายที่ไปเรื่อยๆ ได้ตลอดวัน
จากยุคช่วง 1980 เริ่มมีรถบรรทุกอาหารออกเดินทางเพื่อจำหน่ายในช่วงเวลากลางคืน สำหรับแรงงานกะดึกในเมืองใหญ่อย่างนิวยอร์ก “The Owl” (เดอะ อาวล์) คือแบรนด์ผู้นำแบรนด์แรกๆ ที่ทำให้ธุรกิจ Food Truck เริ่มเป็นที่นิยมและมีวี่แววจะกลายเป็นธุรกิจต้นแบบจนถึงในปัจจุบัน
Food Truck ในวันนี้ก้าวขนานเคียงคู่มากับความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ผู้บริโภคสามารถติดตามการย้ายจุดจอดต่างๆ ของ Food Truck ที่ชื่นชอบได้ทาง twitter และ facebook fanpage “แม้เราจะเคลื่อนย้ายเพียงครั้งเดียว แต่ลูกค้าบ่นกันอุบเลยเวลาหาเราไม่เจอ” Skip Stellhorn (สคิป สเตลลอม) เจ้าของ Pollo Fritto (พอลโล ฟริตโต้) รถขายไก่ทอดที่อยู่จะในพื้นที่อ่าวซานฟราสซิสโกช่วงเดือนมกราคม นอกจากเรื่องเวลาและสถานที่ในการเคลื่อนย้ายแล้ว Food Truck ยังอัพเดตเมนูใหม่ๆ ให้ติดตามผ่านทางสื่ออนไลน์อีกด้วย
แต่เส้นทางของ Food Truck
ก็ไม่ได้เรียบลื่นในทุกครั้งที่เคลื่อนที่
เมื่อเหล่าบรรดาร้านอาหารและภัตตาคารต่างก็ออกมายอมรับว่า Food Truck
ได้ก้าวเข้ามาบั่นทอนธุรกิจของพวกเขาอย่างยากจะปฏิเสธ
แต่เส้นทางของ Food Truck
ก็ไม่ได้เรียบลื่นในทุกครั้งที่เคลื่อนที่
เมื่อเหล่าบรรดาร้านอาหารและภัตตาคารต่างก็ออกมายอมรับว่า Food Truck
ได้ก้าวเข้ามาบั่นทอนธุรกิจของพวกเขาอย่างยากจะปฏิเสธ
“พวกเขาจะมาในช่วงชั่วโมงที่พวกเรากำลังยุ่ง ที่สุด และจอดรถนั่นไว้ตรงหน้าร้านของเรา” Camy Silva (เคมี่ ซิลวา) หุ้นส่วนร้าน El Gaucho Café (เอลกัลโช่คาเฟ) ในลาสเวกัสกล่าว ที่ซึ่งผู้แทนราษฎรตัดสินใจบังคับใช้กฎหมายเพื่อขัดขวางการเข้ามาของ Food Truck จากการจอดนานกว่า 4 ชั่วโมงต่อวัน และห่างจากร้านอาหารเพียงแค่ 15 เมตร Silva ยังกล่าวอีกว่า เธอสนับสนุนกฎหมายนี้เพราะต้องการปกป้องร้านค้าของเธออีกห้าร้านจากการจัด จำหน่ายอาหารของ Food Truck เพราะรถร้านค้าเหล่านี้ขายของตัดราคาต่ำกว่าร้านของเธอถึงเท่าตัว “เราทำการตลาดและลงทุนโฆษณากันอย่างหนักเพื่อดึงดูดผู้คนเข้าร้าน แต่ Food Truck ก็มาอาศัยประโยชน์จากสิ่งที่เราลงแรงทำกันไป” Plabo Silva (พลาโบ ซิลวา) สามีของเธอกล่าวสมทบ
แต่เส้นทางของ Food Truck ก็ไม่ได้เรียบลื่นในทุกครั้งที่เคลื่อนที่
เมื่อเหล่าบรรดาร้านอาหารและภัตตาคารต่างก็ออกมายอมรับว่า Food Truck
ได้ก้าวเข้ามาบั่นทอนธุรกิจของพวกเขาอย่างยากจะปฏิเสธ
Gevin Coleman (เกวิน โคลแมน) ผู้จัดการทั่วไปของ Dubliner (ดับบลินเนอร์) ไอริชผับและร้านอาหารในกรุงวอชิงตัน ให้ความคิดเห็นว่า Food Truck ไม่ได้เข้ามาเพื่อเป็นคู่แข่งของเขาเท่านั้น แต่ยังกินพื้นที่ส่วนลานจอดรถอันเป็นพื้นที่สำหรับจอดรถของลูกค้าอีกด้วย นอกจากนี้ Food Truck ยังเปิดเพลงเสียงดังมาก มากจนเขากลัวว่านั่นคือการรบกวนลูกค้าในส่วนกลางแจ้งของเขาด้วย “ธุรกิจคัด สรรพื้นที่ แบบจำลองทางธุรกิจถูกวางเพื่อจัดการกับลูกค้าในช่วงเวลาที่หนาแน่น Food Truck รุกล้ำเข้ามากอบโกยรายได้และจากไปโดยไม่ลงทุนอะไรเลย” Coleman กล่าว จำนวน 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์คือจำนวนที่ Food Truck เคลื่อนที่มาอยู่ในพื้นที่ และหยุดอยู่ข้างๆ ถนนที่กำลังวุ่นวาย ด้วยระยะ 75 ฟุตจากร้านอาหารของเขา สร้างผลกระทบต่อลูกค้าที่มองหาร้านอาหารกลางวันของเขาเป็นเวลากว่าสามปี
ร้านอาหารและภัตตาคารในกรุงวอชิงตันจ่ายเงินจำนวน
60-70 เหรียญสหรัฐต่อตารางฟุตสำหรับการได้พื้นที่ในการทำธุรกิจที่ดีที่สุด
ในขณะที่ Food Truck จ่ายค่าจอดรถเพียงแค่ 12
เหรียญสหรัฐต่อตารางฟุตเท่านั้น
“พวกเราเต็มใจสนับสนุนสิทธิ์ในการแข่งขันของทุกคนในตลาดกันอย่างเท่า เทียม แต่พวกเราคิดว่า Food Truck ก็ควรจะลงเล่นในสนามเดียวกันนี้อย่างยุติธรรมด้วยเช่นกัน” Kline กล่าว
และแน่นอนว่าไม่ใช่ทุกเมืองที่จะประสบความสำเร็จในการจัดระเบียบด้วย กฎหมายดังตัวอย่างข้างต้น เมื่อปีที่แล้วร้าน El Paso (เอลปาโซ) ในเท็กซัสล้มเหลวจากการใช้กฎหมายบังคับไม่ให้ Food Truck เข้ามาทำการในระยะพื้นที่ 1,000 ฟุตจากร้านอาหาร หลังจากที่ทำการฟ้องร้องกับเจ้าของ Food Truck ในท้องถิ่นถึง 4 เจ้า
ร้านอาหารและภัตตาคารในกรุงวอชิงตันจ่ายเงินจำนวน 60-70 เหรียญสหรัฐต่อตารางฟุตสำหรับการได้พื้นที่ในการทำธุรกิจที่ดีที่สุด ในขณะที่ Food Truck จ่ายค่าจอดรถเพียงแค่ 12 เหรียญสหรัฐต่อตารางฟุตเท่านั้น
จากกรณีดังกล่าวคือผลลัพธ์ของการเคลื่อนไหวเรื่องกฎหมายที่อนุญาตให้ Food Truck ทำธุรกิจได้ เมื่อบรรดาลูกค้าร้องเรียนแค่เพียงเรื่องที่จอดรถ และตราบเท่าที่พวกเขายังได้รับการบริการอยู่
“ระบบการคุ้มครองอุตสาหกรรมด้วยการจัดเก็บภาษีให้สูงสำหรับสินค้าที่เป็น คู่แข่ง ประเด็นนี้ไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาลต้องให้ความสนใจ” Bert Gall (เบิร์ท แกล) ทนายอาวุโสประจำสถาบันเพื่อความยุติธรรมกล่าว เป็นสถาบันที่ไม่แสวงหาผลกำไรในเขตพื้นที่อาร์ลิงตัน รัฐเท็กซัส กล่าวในฐานะเป็นตัวแทนให้เจ้าทุกข์
Bruce Parsons (บรูซ พาร์สันส์) ผู้อำนวยการแห่ง Publich Health Department, El Paso ให้ความเห็นว่ากรณีนี้สะท้อนถึงความสนใจของผู้คนในเมืองที่มีต่อการเติบโต ของกลุ่ม Food Truck “มีความพึงพอใจเพิ่มมากยิ่งขึ้นต่อธุรกิจครัวเคลื่อนที่นี้ พวกเขามีจำนวนมาก Food Truck เป็นที่นิยมจริงๆ
credit by : http://incquity.com/articles/food-truck
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://bit.ly/2kYAKOt
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://bit.ly/2kYAKOt